*นายกฯปัดตอบปรับครม.บอกจัดการได้เอง รอสมช.รายงานผลเยือนจีนประเด็นอุยกูร์*

การปรับคณะรัฐมนตรี  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  กล่าวว่า ยังไม่มีใครทั้งนั้น  เป็นการนั่งเขียนของสื่อเอง ย้ำว่า การปรับคณะรัฐมตรี จัดการเองได้  และไม่ขอพูดถึงกรณีนี้อีก ส่วนการเดินทาง่ไปเยือนประเทศจีนเพื่อติดตามความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมอูยกูร์109คนว่าจีนปฏิบัติกับชาวอูยกูร์ตามที่กล่าวกับไทยหรือไม่ของนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาตินายกฯกล่าวว่า จีนให้การตอบรับดี ส่วนรายละเอียดสมช.คงส่งรายงานให้เอง  ไม่ขอให้ข้อมูล โดยขอให้รอการแถลงของสมช.

ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เริ่มคลี่คลายลงโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือเนื่องจากฝนตก แต่ที่มีปัญหาส่วนใหญ่คือแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพราะต้นน้ำไม่มียอมรับว่าบางพื้นที่มีที่แตกร้าวจริงแต่ต้องการให้นำเสนอในพื้นที่อื่นที่อุดมสมบูรณ์มากกว่า ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการช่วยเหลือโดยใช้กองทุนป้องกันภัยแล้งเป็นงบมาช่วยเกษตรกร ขณะที่40จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งก่อนหน้านี้ปัจจุบันลดเหลือ3จังหวัด และตัวเองมีระเบียบจัดการอยู่แล้วหากมีปัญหาต่างๆ

ในวันนี้ นาย ชิน แท-ยง ประธานสมาคมผู้นำเข้าเกาหลีพร้อมคณะนักธุรกิจเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ โดยนายกรีฐมนตรี ระบุว่า เป็นความสัมพันธ์พิเศษเนื่องจากไทยกับเกาหลีเป็นพันธมิตรกันมาตั้งแต่สงครามเกาหลี ซึ่งตัวเองก็เคยไปรบอยู่ที่นั่น  ส่วนนาย ชิน แท-ยง เป็นผู้ที่มีบริษัทอยู่ในเกาหลีมากกว่า 6 พันบริษัท ซึ่งเกาหลีก็ยินดีที่จะร่วมมือกับไทยในทุกด้านพร้อมระบุว่าเข้าใจสถานการณ์ไทยมากขึ้น แม้ในช่วงแรกอาจมีท่าทีไม่ยอมรับก็ตาม โดยขณะนี้ได้ร่วมกันดูการเพิ่มสินค้าการเกษตร ไกแช่แข็งรวมทั้งวัสดุต้นทุนให้มากขึ้น ในอดีตไทยขาดดุลการค้าต่อเกาหลีมากวันนี้ตัวเองจึงขอยกระดับให้ไทยมีดุลการค้าเทียบเคียงเกาหลีมากขึ้น ีซึ่งตัวเองตั้งใจยกระดับการค้าระหว่างกันให้เป็นปีละ 500ล้านเหรียญสหรัฐให้ได้  พร้อมย้ำว่ารัฐบาลก็ยินดีที่จะเป็นมิตรกับประเทศอื่นทุกประเทศไม่ได้รังเกียจหรือคิดจะคบกับประเทศใดเป็นพิเศษ และการทำสิ่งใดนั้นต้องอาศัยความจริงใจและทุกคนในประเทศต้องช่วยกัน โดยรัฐบาลก็ขอความร่วมมือว่าให้ทุกฝ่ายสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและอย่าแบ่งข้างด้วยเพื่อพัฒนาประเทศ