*คนร.ให้รัฐวิสาหกิจทบทวนการบริหารงานบริษัทในเครือ – พัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าไปสนามบินดอนเมือง*

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมเร่งซ่อมบำรุงและจัดหาขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ใหม่ เพื่อเพิ่มคุณภาพให้ประชาชน รวมทั้งมีแผนพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าไปยังสนามบินดอนเมืองโดยให้หาเอกชนเข้าร่วมโครงการการพัฒนาเส้นทางด้วย นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจ  โดยมอบให้สคร. หารือกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องในการตั้งกองทุน อาจเป็นการระดมทุนจากประชาชนหรือข้าราชการรายย่อยที่ต้องการผลตอบแทนน้อยแต่มั่นคงส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยไปเร่งปรับปรุงแผนให้สอดคล้องอีกครั้ง

ที่ประชุมเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งการร่วมทุนและกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีอยู่ 120 แห่งที่พบว่าครึ่งหนึ่งคือ 60 แห่งมีผลประกอบการขาดทุน จึงขอให้บริษัททบทวนว่าควรประกอบกิจการต่อไปหรือไม่ และให้รายงานผลต่อคนร.ภายใน 3 เดือน ซึ่งหากบริษัทที่ขาดทุนต้องการประกอบกิจการต่อไปจะต้องทำแผนฟื้นฟูมาเสนอ หรือหากเห็นควรปิดกิจการก็ให้เสนอแผนการควบรวมบริษัทต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลักเกณฑ์การลงทุนนี้ จะครอบคลุมไปถึงสถาบันทางการเงินและรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง และหากต้องการจัดตั้งบริษัทในเครือใหม่จะต้องดำเนินการตามแผนการลงทุนนี้ พร้อมระบุเหตุผลประกอบและชี้แจงแผนงานอนาคตให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการขาดทุนซ้ำรอย

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจโดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในกฎหมาย ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้คณะกรรมการชุดนี้ จัดทำแผนพัฒนา 5 ปีและดูแลรัฐวิสาหกิจ พร้อมการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่หลายข้อพร้อมสั่งให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจหารือกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการโอนหุ้นของรัฐวิสาหกิจ ไปยังบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ตามหลักการแห่งร่างพรบ.นี้ โดยจะมีการเสนอร่างพรบ.ฉบับนี้ให้ครม.เห็นชอบภายในเดือนสิงหาคมหรือกันยายนยืนยันว่าไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจแต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ลดสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจและเงินบริจาค พร้อมกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากพบว่าข้อมูลที่มีการเปิดเผยก่อนหน้ายังไม่เป็นปัจจุบันและไม่ได้มาตรฐาน

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร