เปิดประตูหนีไฟทิ้งไว้! ปมควันไฟย้อนกลับในอาคารสูงย่านปิ่นเกล้า มีผู้เสียชีวิต

14 ตุลาคม 2568, 07:43น.


ประชาคมแพทย์ แนะควรทบทวนระบบหนีไฟ อาคารสูง ปมเพลิงไหม้อาคาร38 ชั้นย่านปิ่นเกล้า



          เพจ ประชาคมแพทย์ เผยแพร่ ข้อมูลว่า คุณหมอไม่ควรต้องจบชีวิต...เพราะความประมาทของผู้อื่น รองศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง แพทย์ผู้เปี่ยมความรู้ ความสามารถ และยังเป็นพลังสำคัญของวงการแพทย์ไทย — ต้องจากไปอย่างไม่สมควร เพียงเพราะ สำลักควันไฟขณะหนีไฟ ของอาคารพักอาศัย ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุอื่น นอกเหนือจากนี้หรือ ไม่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ตรงข้ามห้างพาต้า ปิ่นเกล้า อาคารมีทั้ง ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) และ พัดลมอัดอากาศ (Pressurized Fan) ติดตั้งครบถ้วน ถือว่า ระบบดี ทุกประการ แต่กลับไม่สามารถช่วยชีวิตผู้อยู่อาศัยได้



          ระบบดี แต่...เสียงไซเรนดังขึ้นตามหน้าที่ พัดลมอัดอากาศถูกออกแบบมาอย่างดีแต่ทุกอย่างล้มเหลว...อาจเพียงเพราะ เคยมีคนเปิดประตูหนีไฟค้างไว้ก่อนหน้านี้ปัญหาส่วนใหญ่ เมื่อประตูหนีไฟไม่ปิดสนิทควันไฟก็ไหลย้อนเข้ามาในช่องบันไดหนีไฟ ระบบที่ออกแบบมาเพื่อชีวิต กลับกลายเป็น “ปล่องควันมรณะ” เรา พบ ว่า สาเหตุ ของ ผู้ เสียชีวิต จา เพลิง ไหม้ มาก กว่า 90% เกิด จาก suffocation หรือการขาดอากาศหายใจ แต่สำหรับ การเสียชีวิต ของคุณหมอท่านนี้ ยังต้องรอการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่นอนต่อไป ว่า การขาดอากาศหายใจ เป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตใช่หรือไม่ และเกิดที่ใด คุณหมอทำถูกทุกขั้นตอนท่านหนีออกทางบันไดหนีไฟ — เส้นทางที่ควรปลอดภัยที่สุดแต่กลับต้องจบชีวิต ซึ่งต้องรอการสอบสวนอย่างชัดเจนว่าท่านเสียชีวิต หรือเกิดAsphyxia? ที่ใด?ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สุด ในการวางแนวทางการป้องกัน ต่อไป



          ถ้าเราไม่เริ่มเปลี่ยน...จะมี “ ผู้เคราะห์ร้าย คนต่อไป” อีกกี่คน?โศกนาฏกรรมนี้ไม่ควรเกิดซ้ำอีกเพราะยังมีอาคารอีกนับพันทั่วประเทศ — โรงแรมโรงพยาบาล สำนักงาน หอพัก — ที่อาจมี “ประตูหนีไฟเปิดค้างไว้” อยู่ในขณะนี้ ถ้าไม่มีใคร ให้ความสำคัญที่จะสำรวจอย่างจริงจัง ในประสบการณของ Admin เอง ยังเคยเจอว่าบางตึกมีการเอาวัสดุ หรือ สิ่งของ ไปขวางประตูไว้ เพื่อสะดวกในการเดินขึ้นลง ระหว่างชั้น คำถามคือ... เราจะรอให้ใครอีกคนต้องตายก่อนหรือ ถึงจะลงมือจริงจัง?



          กรอบข้อเสนอเชิงนโยบาย ที่ควรมีในระดับประเทศเพื่อไม่ให้ “บันไดหนีไฟ” กลายเป็น “ทางตันของชีวิต”



1. ตรวจสอบระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Proactive Audit) บังคับให้อาคารสูงทุกแห่งต้องตรวจสอบระบบ Pressurized Fan, Fire Door และ Fire Alarm ทุก 6 เดือนผลตรวจต้องเผยแพร่บนเว็บไซต์กรมโยธาฯ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้



2. เพิ่มโทษผู้ละเลยหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารหากนิติบุคคล/ผู้จัดการอาคารละเลยการดูแลระบบป้องกันอัคคีภัยจนเกิดความเสียหายแก่ชีวิต→ ให้ถือว่าเป็น “การกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”



3. สร้างช่องทางร้องเรียน FireCheck Platformจัดตั้งระบบร้องเรียนออนไลน์สำหรับประชาชน แจ้ง “ประตูหนีไฟเปิดค้าง” หรือ “ระบบอัดอากาศไม่ทำงาน” ได้โดยตรงมีทีม ตรวจสอบเฉพาะกิจในแต่ละเขต เพื่อเข้าตรวจภายใน 48 ชั่วโมง



4.รวมข้อมูลระบบหนีไฟไว้ในทะเบียนกลางอาคาร (Building Safety Registry) ให้หน่วยงาน ท้องถิ่นบันทึกข้อมูลระบบความปลอดภัยของอาคารทุกแห่ง และเปิดให้ตรวจสอบผ่าน QR  Code บริเวณทางเข้าอาคาร



         ข้อมูล ทางระบบไฟฟ้า จากนายวัตต์ดี(สุวัฒน์ ภควาภาคภูมิ) และขอส่งความ ปรารถนาดีให้กับ ผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 10 คน ให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว และหวังว่า ผู้เกี่ยวข้องที่จัดวางระบบ จะได้ร่วมกันหาสาเหตุ และหาทางป้องกันเหตุในอนาคตเพื่อความ ปลอดภัย ของทุกคน และท้ายที่สุดขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยใจจริงครับ



 

ข่าวทั้งหมด

X