ปปช.ยังไม่ทิ้งคดีฮั้วเลือก สว.- มีตัวละครใหม่ คดีช่วยทักษิณไม่ติดคุก

วันนี้, 11:25น.


          คดีกล่าวหาแทรกแซงฮั้วเลือก สว. นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า อาจแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และส่วนที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เนื่องจากเป็นรัฐมนตรี



          ทั้ง 2 ส่วน ในคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ถ้าปรากฎว่าเป็นการกระทำมีมูลความผิด ป.ป.ช.อาจต้องดำเนินการต่อจนเสร็จ เพราะว่าความรับผิดทางอาญา ยังมีอยู่ ส่วนคดีมาตรฐานจริยธรรม เป็นโทษทางการเมืองเป็นเรื่องของการวินิจฉัยว่าตัวผู้ถูกกล่าวหา จะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่ เทียบกับคดีถอดถอนจากตำแหน่งในอดีต แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะถูกถอดถอนจากอดีตไปแล้ว อำนาจการไต่สวนของ ป.ป.ช. ยังมีอยู่



          เมื่อถามถึงกลุ่ม สว.สำรอง ยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมของ สว. จำนวน 92 คน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าได้รับคำร้อง และอยู่ระหว่างเดินหน้าตรวจสอบเป็นรายบุคคล ว่ามีความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกับพรรคการเมืองสีน้ำเงินหรือไม่



          คดีกล่าวหาข้าราชการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า ปัจจุบันมีการตั้งองค์คณะไต่สวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จำนวน 12 คน แต่ปัจจุบันมีคำร้องเพิ่มเติมเข้ามา ขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือคำร้องที่อยู่ รพ.ตำรวจ ใน 180 วัน และคำร้องภายหลังการพักโทษ โดยมีตัวละครเพิ่มเติมหลังจากคัดคำพิพากษา โดยเจ้าของเรื่องต้องเอาข้อเท็จจริงมาถอด ว่ามีการร้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่ หรือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษา กับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนไปแล้ว สอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามมีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ตรงกัน ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องดูตามแนวคำพิพากษาเป็นหลัก



           เมื่อถามว่า นายทักษิณ ตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคนใหม่ด้วยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตัวอดีตนายกฯ เป็นผู้ที่รับโทษในคดีเดิม เป็นข้อกฎหมายว่าผลของคดีเดิม ที่เป็นคดีใหม่ ตัวอดีตนายกฯจะต้องมีความรับผิดด้วยหรือไม่อย่างไร องค์คณะไต่สวนฯ ต้องไปดูอยู่แล้วว่าอดีตนายกฯต้องมีความรับผิดหรือไม่ เพราะท่านไม่ได้ถูกไต่สวนเดิม ส่วนข้อกฎหมายจะไปถึงหรือไม่ โดยอดีตนายกฯ ไม่ได้กระทำผิดในคดีนี้โดยตรง ความรับผิดในทางอาญา จะไปถึงหรือไม่ เป็นเรื่องขององค์คณะไต่สวนต้องไปดูอีกทีหนึ่ง ตามที่ศาลได้มีคำพิพากษามา



          เมื่อถามว่า ตัวละครใหม่เพิ่มเติม 2 คนที่ถูกร้องเข้ามา มี 2 ช่วงคือ พักรักษาตัว 180 และอีกช่วงคือในช่วงการพักโทษ อยู่ที่องค์คณะไต่สวนพิจารณา แต่ไปเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายด้วย มื่อถามถึงในแง่กฎหมาย คดีดังกล่าวเป็นคดีประวัติศาสตร์ มองเรื่องนี้อย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่าไม่ว่าคดีอาญานักการเมือง หรือความผิดฐานจริยธรรมก็ดี ที่บอกประวัติศาสตร์ เพราะศาลไม่เคยใช้อำนาจยกคดีขึ้นมาไต่สวนเอง แต่จริงๆ ก็เคยมีแนวคำพิพากษาของศาลอยู่แล้วในคดีอื่น แต่คดีนี้เป็นคดีในชั้นบังคับโทษของศาลฎีกาฯ เลยมองว่า เป็นคดีพิเศษ คิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่มุมมองคนไม่ได้อยู่แวดวงนักกฎหมาย หรือไม่ได้เข้าไปสัมผัสการทำงานของศาลฎีกา โดยเฉพาะศาลมีอำนาจที่ใช้ระบบไต่สวน คือศาลค้นข้อเท็จจริงได้เอง ไม่ได้แปลกอะไรมาก อยู่ในวิสัยที่เราคาดเดาได้



          ส่วนคดีกล่าวหา 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล หลังเปิดโอกาสให้มาชี้แจงเต็มที่ มีกรอบระยะเวลา 15 วัน บางรายขอขยายระยะเวลา หลังจากนี้องค์คณะไต่สวน จะมีการพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อสรุปสำนวนนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยไม่มีความจำเป็นต้องไต่สวนเพิ่มเติมอีก คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน ยืนยันว่าการทำงานของ ป.ป.ช.อยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ได้ดูไทม์ไลน์การเลือกตั้ง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในการพิสูจน์ความผิด โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาคดีนี้รายคนเริ่มตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นคาดว่าเร็วสุดคือเสร็จภายใน พ.ย. อย่างช้าไม่น่าจะเกิด ธ.ค. 2568 ก่อนการเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งทางการเมือง



#ปปช



#ทักษิณไม่นอนคุก



#ฮั้วเลือกสว



 



 

ข่าวทั้งหมด

X