นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF กล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันวิจัยมิลเคน (Milken) ในแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า “ความไม่แน่นอนคือความปกติแบบใหม่ (new normal) ที่จะคงอยู่ตลอดไป” ดังนั้น แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางแรงกดดันที่สำคัญ อย่างมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอ จึงแนะนำให้ “รัดเข็มขัดให้แน่น” (Buckle up)
ความคิดเห็นของกรรมการผู้จัดการ IMF ยังมีขึ้นในวันที่ราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก เมื่อนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยจากการที่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งในสัปดาห์หน้า IMF และธนาคารโลกจะจัดการประชุมประจำปีที่กรุงวอชิงตัน ที่คาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตร้อยละ 3 ในปีนี้ (2568) เนื่องจากการที่ประเทศต่างๆ ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่มีความเด็ดขาด ภาคเอกชนมีการปรับตัว และผลกระทบจากมาตรการภาษีก็ไม่ได้ส่งผลรุนแรงอย่างที่มีความกังวล
นางจอร์เจียวา กล่าวด้วยว่า มาตรการภาษีสร้างความไม่แน่นอนให้เกิดขึ้นทั่วโลก คนหนุ่มสาวจำนวนมากมีความผิดหวังและความไม่พอใจเกี่ยวกับรายได้และการเติบโตในการทำงาน เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการปฏิวัตินโยบาย เปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้า การอพยพ และกรอบการทำงานระหว่างประเทศ
จึงเสนอให้เอเชียเพิ่มมูลค่าการค้าภายในกลุ่ม ส่วนในแอฟริกาควรมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ และในยูโรปควรมีการแข่งขันที่มากขึ้น
ส่วนสหรัฐอเมริกา นางจอร์เจียวาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลกลางและส่งเสริมการออมของครัวเรือน เนื่องจากหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นจาก 380,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2468 เป็น 37,640,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 ตามข้อมูลของกระทรวงการคลัง ซึ่งสำนักงานงบประมาณรัฐสภารายงานในเดือนกรกฎาคมว่ากฎหมายภาษีและการใช้จ่ายฉบับใหม่ของรัฐบาลทรัมป์จะทำให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นอีก 3,400,000 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2577
…
#เศรษฐกิจโลก
#ไอเอ็มเอฟ
#IMF