Politico ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของสหรัฐ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ทำเนียบขาวได้แจ้งต่อทางการมาเลเซีย ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีความยินดีที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 26-28 ต.ค. หากเขาได้รับอนุญาตให้เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพ ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งจะจัดขึ้นนอกรอบการประชุมดังกล่าว
หากได้รับการอนุมัติ พิธีดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญสำหรับปธน.ทรัมป์ในการแสดงบทบาทในฐานะบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการยุติความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน
ข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีปธน.ทรัมป์เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ขณะที่จีนมีส่วนร่วมและมาเลเซียช่วยประสานงานเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการคลี่คลายความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา ในเดือนส.ค.กัมพูชาได้เสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้ปธน.ทรัมป์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยให้เหตุผลว่าเขามีบทบาทสำคัญในการคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน
ในจดหมายอย่างเป็นทางการที่ส่งถึงคณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้ยกย่องภาวะผู้นำที่โดดเด่นของปธน.ทรัมป์ในฐานะผู้เจรจาให้เกิดการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่หายนะ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2568 (ณ เวลา 14.00 น.) สถานการณ์โดยรวม มีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย 4 ลำ, พื้นที่โดนตวล 1 ลำ, พื้นที่ซำแต 3 ลำ, พื้นที่ภูผี 2 ลำ, พื้นที่ฐานปฏิบัติการหนองแค ร้อย.ทพ.2602 จำนวน 1 ลำ และบริเวณเหนือเนิน 350 จำนวน 6 ลำ และตรวจพบรถแบคโฮ รถบรรทุก 10 ล้อ ทำการปรับปรุงที่มั่นขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นการปรังปรุงบังเกอร์สำหรับหลบภัย ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์