นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ว่า พายุ “แมตโม” ส่งผลกระทบทางอ้อมให้ช่วงวันที่ 6 - 8 ต.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนตกปานกลางถึงหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยประสานกรมชลประทานปรับแผนการระบายน้ำเพื่อรักษาความมั่นคงของเขื่อน โดยทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เป็นอัตรา 35 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ในขณะที่เขื่อนภูมิพล ยังคงการระบายน้ำในอัตรา 5 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ในช่วงระยะนี้ โดยระบายน้ำรวมอยู่ในอัตรา 40 - 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ หากต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น และเนื่องจากปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนมีแนวโน้มลดลง
กรมชลประทาน (ชป.) จึงเตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาจาก 2,500 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็น 2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะช่วยให้ระดับน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนลดลงประมาณ 0.20 – 0.25 ม. สำหรับการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฝนตกหนัก ชป. จะดำเนินการควบคุมการระบายน้ำของเขื่อนในอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม. ต่อวินาที และมีระดับน้ำเหนือเขื่อนไม่เกิน +17.000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) พร้อมทั้งระบายน้ำไปทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นในอัตราที่เหมาะสมอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานประเมินผลกระทบจากพายุ “แมตโม” อย่างต่อเนื่อง
#น้ำท่วมไทย
#กรมชลประทาน
#สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ