นายเควิน ฮัสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ทางรายการ state of the Union ของซีเอ็นเอ็นว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และนายรัสเซลส์ วอจต์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณของสหรัฐฯพร้อมที่จะเดินหน้าเลิกจ้างเจ้าหน้าที่ในภาครัฐ ถ้าหากประธานาธิบดีทรัมป์ เห็นว่า การเจรจากับสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครต พรรคฝ่ายค้าน หวังยุติปัญหาชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาล ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
แม้ว่า การชัตดาวน์ของสหรัฐฯจะเข้าสู่วันที่ 6 แล้วในวันนี้(6 ต.ค.) เริ่มจากวันที่ 1 ต.ค. แต่นายฮัสเซ็ตต์ กล่าวว่า รัฐบาลทรัมป์ยังหวังจะเจรจากับพรรคเดโมแครต เพื่อเลี่ยงการปลดเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากๆ ตามคำขู่ก่อนหน้านี้จากนายวอจต์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเลิกจ้างพนักงานในโครงการที่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่น โครงการที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะ และไม่ใช่กิจการด้านกลาโหม
ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ กล่าวโทษเรื่องการปลดเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯว่า เป็นสืบเนื่องจากพรรคเดโมแครตไม่สนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น ตามข้อเสนอจากพรรครีพับลิกัน ที่ผ่านมา ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า การเจรจามีความคืบหน้า นับตั้งแต่นายทรัมป์พบแกนนำพรรคเดโมแครต เช่น นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาและนายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาว เมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ สหรัฐฯเริ่มชัตดาวน์เมื่อวันที่ 1 ต.ค. วันแรกของปีงบประมาณประจำปี 2569 หลังสว.จากพรรคเดโมแครตโหวต คว่ำร่างกฎหมายงบบประมาณระยะสั้น เพื่อให้หนวยงานรัฐมีงบประมาณพอที่จะเปิดทำการได้จนถึงวันที่ 21 พ.ย.นี้ สำหรับจุดยืนของพรรคเดโมแครต คือ ต้องการให้รัฐบาลทรัมป์ขยายเครดิตทางภาษี ภายใต้กฎหมายประกันสุขภาพถ้วนหน้าไว้ในร่างกฎหมายนี้ แต่พรรครีพับลิกันไม่เห็นด้วย
#รัฐบาลทรัมป์
#ปลดเจ้าหน้าที่รัฐ
#ชัตดาวน์
ที่มา:รอยเตอร์
ข่าวทั้งหมด