ภาวะชัตดาวน์ ส่งผลดัชนีหุ้นสหรัฐปิดตลาดผันผวน – ยังไม่ประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร

          ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ และดัชนีเอสแอนด์พี500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันศุกร์ (3 ต.ค.) หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย แม้ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ ฯ ยืดเยื้อ

+++ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,758.28 จุด เพิ่มขึ้น 238.56 จุด

+++ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,715.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.44 จุด

+++ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,780.51 จุด ลดลง 63.54 จุด

           สัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.1%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.1% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.3%

           รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ประจำเดือนก.ย. ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์นั้นไม่ได้ถูกประกาศออกมา เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล แต่บรรดานักลงทุนยังสามารถประเมินข้อมูลจากการสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ที่ชี้ว่า ดัชนีการจ้างงานภาคบริการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

          เฟดปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. 2568 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 หลังตลาดแรงงานอ่อนแอ โดยเมื่อวันพุธ รายงานบ่งชี้ว่า การจ้างงานภาคเอกชนลดลง 32,000 ตำแหน่ง และมีการปรับตัวเลขเดือนส.ค.เป็นลดลง 3,000 ตำแหน่ง

           ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group นักลงทุนมองว่า การปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค.ของ เฟดแทบจะเป็นสิ่งที่แน่นอนแล้ว และยังให้น้ำหนัก 84% ว่าจะมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกในเดือนธ.ค.

          สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าทุนสำรองในระบบธนาคารของสหรัฐฯ ได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนม.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสภาพคล่องในระบบการเงินกำลังหดตัว และอาจทำให้เฟดต้องยุติการเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อให้บอนด์ยีลด์ต่ำลงและทำให้ปริมาณเงินในระบบสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำจากสินทรัพย์ปลอดภัยให้ดอกเบี้ยต่ำลง

          ทองโลก ยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับ/ต้านที่ 3,835-3,870 ดอลลาร์ตามลำดับ จึงประเมินว่า ทองโลกอาจยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบดังกล่าว แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,815 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่ระยะปรับฐานลงระยะสั้น