การปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐหรือ ชัตดาวน์ ยังมีต่อไป หลังจากที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตไม่สามารถ ดึงเสียงสนับสนุนจากทั้งสองพรรค ให้เพียงพอสำหรับโหวตผ่านข้อเสนอของพวกเขา ส่วนในสุดสัปดาห์นี้ วุฒิสภาได้ปิดทำการ
การลงมติครั้งนี้ ล้มเหลวเป็นครั้งที่สี่ เพื่อรับข้อเสนอของพรรคใดพรรคหนึ่งเพื่อกลับมาเปิดทำการของรัฐบาลกลางอีกครั้ง ซึ่งแทบจะรับประกันได้ว่าการปิดหน่วยงานรัฐ หรือภาวะชัตดาวน์ (Government Shutdown) จะขยายออกไปอย่างน้อยจนถึงวันจันทร์
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่กลับมาประชุมตามกำหนดในสัปดาห์หน้า เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาไม่มีแนวโน้มที่จะนำสมาชิกสภานิติบัญญัติกลับมาประชุมจนกว่าวุฒิสภาจะผ่านมาตรการการใช้จ่ายชั่วคราวของพรรครีพับลิกัน
ขณะที่ มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน สส.พรรครีพับลิกันฝ่ายขวาจัดจากรัฐจอร์เจีย ซึ่งเริ่มรู้สึกผิดหวังกับพรรครีพับลิกันและประธานาธิบดีทรัมป์มากขึ้นเรื่อยๆ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า พรรคของเธอเองมีส่วนรับผิดชอบต่อการปิดหน่วยงานรัฐบาลอย่างน้อยก็บางส่วน และมีอำนาจที่จะเปิดรัฐบาลขึ้นมาใหม่ได้เพียงฝ่ายเดียว
กรีนโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย โดยอ้างถึงร่างกฎหมายงบประมาณ ระบุว่า“หากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันต้องการให้ผ่านร่างกฎหมายงบรายจ่ายชั่วดคราว และเปิดทำการรัฐบาลขึ้นมาใหม่ พวกเขาก็สามารถทำได้โดยใช้ทางเลือกนิวเคลียร์”
“ทางเลือกนิวเคลียร์” ที่กรีนกล่าวถึงคือข้อเสนอให้สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันลดเกณฑ์การผ่านร่างกฎหมายจาก 60 เสียงเหลือเพียงเสียงข้างมากธรรมดา 50 เสียง ก่อนหน้านี้ สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้ลดเกณฑ์การผ่านร่างกฎหมายลงสำหรับบางกรณี ซึ่งเป็นการลดทอนบรรทัดฐานทางกฎหมายที่มีมายาวนาน ด้วยการทำให้การเสนอชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการง่ายขึ้น
ในโพสต์โซเชียลมีเดียของเธอ กรีนเรียกร้องให้สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์สำหรับการผ่านกฎหมายทั้งหมดในอนาคต โดยยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้พรรครีพับลิกันสามารถผ่านกฎหมายต่างๆ รวมถึงการตัดงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งจะยากต่อการแก้ไขภายใต้รัฐบาลเดโมแครตในอนาคต
#การเมืองสหรัฐ
#ชัตดาวน์