นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นัดแรก
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม สมช.เห็นชอบในหลักการอนุมัติสร้างรั้วตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนพิกัดในการสร้าง กองบัญชาการกองทัพไทยจะพิจารณาว่าจะสร้างช่วงไหนและรูปแบบใด ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศและความเหมาะสม นโยบายขณะนี้ คือ ต้องใช้กฎหมายที่ถูกต้อง และคำนึงหลักมนุษยธรรม คำนึงผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะกฎอัยการศึก กฎหมายป่าไม้ กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง โดยทาง บก.กองทัพไทย จะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีนี้เป็นเรื่องของประชาชนทั่วไปซึ่งต้องคำนึงถึงวิถีชีวิต เนื่องจากขณะนี้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้ง เด็ก สตรี และคนชรา ซึ่งการผลักดันจะพยายามใช้กฎหมายและคำนึงถึงความเหมาะสม
ที่ประชุมยังไม่มีการพูดถึง MOU 43 และ MOU 44 ขณะที่การถอนอาวุธหนักและอื่น ๆ อยู่ในกรอบ GBC โดยก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ ต่อไปรวมถึงการเจรจาก็มีเงื่อนไขที่เราต้องการให้กัมพูชาปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ตามมีความคืบหน้าในการเจรจา เช่น กรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ที่ได้ชี้แจงต่อยูเอ็นซึ่งได้ชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้นานาชาติทราบ ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาที่จะต้องดำเนินต่อไป ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กับทางกองทัพที่มีความพร้อม เราบอกสหประชาชาติว่า เราไม่ใช่ผู้รุกราน แต่ถูกรุกราน สถานะตรงนี้ต้องรักษาเอาไว้ และการรักษาอธิปไตยกองทัพมีความพร้อม และทางรัฐบาลก็ให้การสนับสนุน ถ้าเขาไม่ตอบรับ เราก็ไม่ตอบสนอง หากเขาจะขอให้ทำอะไร เช่นขอให้ช่วยเปิดด่านก็จะไม่ทำ ไม่อยากใช้คำว่า กดดัน ทุกวันนี้ก็กดดันมากอยู่แล้ว แต่จะสื่อไปว่า อยากจะอยู่กันแบบนี้ ให้ชีวิตประชาชนที่เขารับผิดชอบดีขึ้น เขาก็ต้องตอบรับเรา
ด้านนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตามกรอบ GBC คุยกันแล้วว่า ตกลงจะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในรายละเอียดจะต้องคุยกัน ทั้งการถอนอาวุธหนัก การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการคุยกันในรายละเอียด และวันก่อนทางนอร์เวย์ก็บอกว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องการกู้ทุ่นระเบิดจะทำร่วมกัน แต่จะไปคุยกันในรายละเอียด ซึ่งจากที่คุยกันที่นิวยอร์ก เราก็แสดงความมุ่งมั่นว่าจะทำในสิ่งที่ตกลงให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจที่จะปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกัน ไปเวทีระหว่างประเทศ ทางอ้อมเราก็กดดันเขาว่า จะคุยเรื่องสันติภาพก็จะต้องมีการกระทำและการแสดงออกที่เห็นเป็นรูปธรรม และสิ่งที่ตกลงกันไว้แล้วต้องเดินหน้า
ขณะที่ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังคงเห็นชอบตามมาตรการเดิม ทั้งมาตรการด้านการทหาร การดูแลชายแดน และชายแดนจะยังคงปิดอยู่ รวมถึงจะสร้างเอกภาพในการสื่อสาร และยังคงใช้การทูตเชิงรุก
นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการเยียวยาซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มที่ตกหล่น ได้แก่ ผู้เสียชีวิตทางอ้อมจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทาง สมช.จะไปเพิ่มนิยามความหมายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ และมอบให้ มท.ดูแลผู้ได้รับผลกระทบกว่า 2,000 ครัวเรือนด้วย
ขณะที่ สถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างนโยบายบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 ปี ระหว่างปี 2568 - 2570 ซึ่งร่างดังกล่าวเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะนำเสนอสู่ ครม. และจะแถลงต่อรัฐสภาต่อไป
#ประชุมสมชนัดแรก