ยุโรปพิจารณานำสินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัดไปให้ยูเครนกู้ แต่ยังกังวลข้อกฎหมาย

          ผู้นำสหภาพยุโรปกำลังพิจารณาแผนที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินและการทหารในระยะยาวแก่ยูเครนโดยใช้ทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้หลายแสนล้านปอนด์ทั่วทั้งยุโรป เพื่อทดแทนการที่สหรัฐอเมริกาภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยุติความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครนและลดปริมาณการจัดหาอาวุธลงอย่างมาก

          นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สหภาพยุโรปใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนยูเครนไปแล้ว 174,000 ล้านยูโร ขณะที่งบประมาณและความต้องการทางทหารของยูเครนสำหรับปี 2569 และ 2570 ประเมินไว้ที่ประมาณ 130,000 ล้านยูโร ขณะที่สินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ในเบลเยียมมีอยู่ประมาณ 194,000 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีอยู่ในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและแคนาดา

          นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวว่า เจตนาของสหภาพยุโรป คือการยึดทรัพย์สินของรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งในภาษารัสเซียเรียกว่าการโจรกรรม

          อย่างไรก็ตาม นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ยุโรปไม่ได้ยึดทรัพย์สินรัสเซียมาเป็นของตนเอง แต่จะนำเงินสดไปให้ยูเครนกู้ยืม และยูเครนจะชำระคืนเงินกู้เมื่อรัสเซียจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม ซึ่งหากรัสเซียปฏิเสธทรัพย์สินเหล่านั้นก็จะถูกอายัดไว้ต่อไป และกล่าวด้วยว่า รัสเซียคือผู้กระทำความผิด สร้างความเสียหาย จึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ

          นายกรัฐมนตรี เมตเต้ เฟรเดอริกเซน แห่งเดนมาร์กกล่าวว่า แผนของคณะกรรมาธิการถือเป็นความก้าวหน้าที่ดี แม้จะยังมีข้อกังวลทางกฎหมาย

          ส่วนนางคายา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า ตามหลักการของสหภาพยุโรป ที่ว่าการนำเสนอมาตรการจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ แต่ขณะนี้สมาชิกบางแห่งยังไม่สนับสนุน จึงยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ แต่หากไม่นำสินทรัพย์ของรัสเซียมาใช้ ก็หมายความว่า ผู้ที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้ คือผู้เสียภาษีของยุโรป

...

#สินทรัพย์รัสเซีย

#สหภาพยุโรป