เว็บไซต์ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการทั้งหมด รวมถึงปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องกาตาร์ หลังจากที่อิสราเอลโจมตีเป้าหมายผู้นำกลุ่มฮามาสในกาตาร์ ขณะที่พวกเขากำลังประชุมเพื่อพิจารณามาตรการหยุดยิงกับอิสราเอลในฉนวนกาซา
ในคำสั่งมีการอ้างถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะรับประกันความปลอดภัยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกาตาร์จากการโจมตีจากภายนอก และจะถือว่าการโจมตีด้วยอาวุธใดๆ ต่อดินแดน อธิปไตย หรือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญขอฐกาตาร์คือภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของสหรัฐฯ
ในกรณีที่มีการโจมตีเกิดขึ้นจริง สหรัฐฯ จะดำเนินการตามมาตรการที่ถูกต้องตามกฎหมายและเหมาะสมทั้งหมด ทั้งทางการทูต เศรษฐกิจ และหากจำเป็นคือทางทหาร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และรัฐกาตาร์ และเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพ
คำสั่งฉบับนี้เกิดขึ้นระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตันของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลเมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.68) ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ จัดให้มีการประชุมทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกับฝ่ายกาตาร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูได้ แสดงความเสียใจต่อการโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของกาตาร์
อย่างไรก็ตาม ขอบเขตที่แท้จริงของคำสั่งฉบับนี้ ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว ข้อตกลงหรือสนธิสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ก่อนมีผลบังคับใช้ และรูปแบบของคำสั่งฉบับนี้ ยังเป็นไปในลักษณะเดียวกับเมื่อครั้งที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านกับมหาอำนาจโลกในปี 2558 ซึ่งไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา
...
#คำาสั่งประธานาธิบดีสหรัฐ
#กาตาร์
#อิสราเอล