ไร้ข้อสรุป! สหรัฐฯเตรียมชัตดาวน์ ปมทรัมป์หารือไม่ได้ข้อสรุปงบประมาณ กับเดโมแครต

          สหรัฐฯมุ่งหน้าสู่การชัตดาวน์หน่วยงานรัฐ (government shutdown) หลังเที่ยงคืนวันนี้(30 ก.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำรัฐบาลจากพรรครีพับลิกัน เรียกประชุมกับแกนนำพรรคเดโมแครต พรรคฝ่ายค้านคือ นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐฯที่ทำเนียขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อวานนี้(29 ก.ย.) แต่การประชุมสิ้นสุดลง โดยทั้งสองฝ่ายไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนในเรื่องแผนงบประมาณระยะสั้น เพื่อเลี่ยงการชัตดาวน์หน่วยงานรัฐที่ใกล้เข้ามาในวันพุธนี้(1 ต.ค.)

          ดูเหมือนแต่ละฝ่ายต่างยืนหยัดข้อเสนอของฝ่ายตนเอง โดยต่างฝ่ายต่างโยนความผิดให้กัน โดยพรรครีพับลิกันกล่าวหาพรรคเดโมแครตว่า ดื้อรั้นเกินไป ขณะที่พรรคเดโมแครตมองว่า พรรครีพับลิกันไม่ยอมรับความเห็นจากพรรคฝ่ายค้าน โดยรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ของสหรัฐฯเปิดเผยกับนักข่าวหลังประชุมที่ทำเนียบขาวว่า เขาเชื่อว่า สหรัฐฯกำลังมุ่งหน้าไปสู่การชัตดาวน์หลังเที่ยงคืนวันนี้ โดยกล่าวหาพรรคเดโมแครตว่าไม่ทำสิ่งที่ถูกต้อง และเปรียบเทียบการทำของพรรคเดโมแครตเสมือนจับพลเมืองชาวอเมริกันไว้เป็นตัวประกันและใช้ปืนจ่อหัว หวังเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันทำตามข้อเสนอจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่นายชูเมอร์ สว.ระดับสูงของพรรคเดโมแครตยอมรับว่าทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่ต่างกันมาก

          สำหรับสาเหตุหลักของความขัดแย้งอยู่ที่ข้อเรียกร้องจากพรรคเดโมแครต ซึ่งต้องการรวมการขยายสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น การอุดหนุนโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า(Obamacare)ที่ใกล้จะหมดอายุสิ้นปีนี้ ในขณะที่พรรครีพับลิกันยืนกรานให้แยกประเด็นงบประมาณรัฐบาลออกจากประเด็นสุขภาพและต้องการให้เสนอเพียงกฎหมายงบประมาณระยะสั้น เพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงกลางเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งหากไม่บรรลุข้อตกลง จะกระทบบริการรัฐหลายอย่าง รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานรัฐนับแสนคน สะท้อนถึงความแตกแยกทางการเมืองที่รุนแรงของสองพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ การชัตดาวน์ครั้งหลังสุด เกิดขึ้นในยุคที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรก มีการปิดหน่วยงานรัฐ 35 วัน เป็นสถิติที่นานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ

#สหรัฐ

#ใกล้ชัดดาวน์

ที่มา: bbc