*ส.ส.กรีซเริ่มอภิปรายร่างกฎหมายปฏิรูปฉบับใหม่ ท่ามกลางการประท้วงของปชช.*

บีบีซี รายงานว่าส.ส.กรีซอยู่ระหว่างการอภิปรายมาตรการเศรษฐกิจที่เข้มงวด รวมถึงการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 6-23 การขึ้นภาษีนิติบุคคลจากเดิมร้อยละ 26-29 และการขยายระยะเวลาเกษียณอายุจาก 60 ปีเป็น 67 ปีที่จะต้องลงมติให้แล้วเสร็จในวันนี้ เพื่อให้ข้อตกลงช่วยกู้กอบวิกฤติกรีซของยูโรโซนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ก่อนหน้านี้ 3 พรรคฝ่ายค้านที่ฝักใฝ่ยุโรปให้คำมั่นว่าจะรับรองร่างกฎหมายปฏิรูป แต่กระแสต่อต้านมาจากสมาชิกบางส่วนในพรรคซีริซาของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสและพรรคอินดิเพนเดนท์ กรีกส์ พรรคร่วมขนาดเล็กที่ระบุว่า จะโหวตรับรองร่างกฎหมายเพียงบางฉบับ

ขณะเดียวกัน ชาวกรีกที่ต่อต้านข้อตกลงดังกล่าวได้ออกมาประท้วงตามท้องถนนต่างๆในกรุงเอเธนส์ก่อนการลงมติของส.ส. โดยเฉพาะกลุ่มสหภาพแรงงาน สมาคมการค้าตัวแทนราชราชการ คนงานเทศบาลและเจ้าของร้านขายยาได้นัดหยุดงานประท้วงในวันนี้ ก่อนหน้านี้ ผู้นำของยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงช่วยกอบกู้วิกฤติครั้งที่ 3 มูลค่า 86,000 ล้านยูโรสำหรับกรีซเมื่อวันจันทร์ แม้ว่า 1 ใน 3 เจ้าหนี้คือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ระบุว่าข้อตกลงนี้คงจะช่วยบรรเทาวิกฤติเศรษฐกิจให้กับกรีซเพียงระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ก็บ่งชี้ว่าไอเอ็มเอฟอาจจะไม่เข้าร่วมในการช่วยกู้วิกฤติกรีซในครั้งนี้

นอกจากนี้มีรายงานของไอเอ็มเอฟที่เขียนขึ้นก่อนที่ผู้นำยูโรโซนจะบรรลุข้อตกลงกับกรีซเมื่อเช้าวันจันทร์ และมีการส่งให้ผู้นำยูโรโซนทราบมาก่อนแล้ว แต่เพิ่งจะมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะชนเมื่อวานนี้ ระบุว่าในช่วง 2 ปีนี้ หนี้สาธารณะของกรีซใกล้จะถึงร้อยละ 200 ของจีดีพี จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซสำเร็จผลได้ก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ยอมผ่อนผันระยะเวลาการชำระให้กรีซนานถึง 30 ปี ซึ่งถือว่านานกว่าระยะเวลาผ่อนผันที่เจ้าหนี้ยุโรปสามารถจะรับได้ในการเจรจาที่ผ่านมา ส่วนมาตรการอื่นๆรวมถึงการยอมตัดหนี้สูญบางส่วน นอกจากนั้นไอเอ็มเอฟตั้งข้อสังเกตว่า ความประสงค์ของผู้นำการเมืองยุโรปที่จะสร้างเอกภาพให้กับสหภาพยุโรปต่อไปแรงกล้ายิ่งกว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจจะส่งผลให้สหภาพเศรษฐกิจเกิดการแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ/21.02 น.

ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์รายงานอ้างนายยานนิส ดรากาซาคิส รองนายกรัฐมนตรีของกรีซว่า รัฐบาลกรีซคงจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้เรื่องการขอให้ช่วยกู้วิกฤติครั้งที่ 3 ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ระบุว่ารัฐบาลกรีซขอขอบคุณประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐฯอีกแรงหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนจุดยืนที่ว่าข้อตกลงกอบกู้วิกฤตินี้ควรจะรวมถึงประเด็นการผ่อนผันระยะเวลาชำระหนี้ การทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้คงจะไม่สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ได้เผยแพร่รายงานที่บ่งชี้ว่ากรีซต้องการการผ่อนผันระยะเวลาชำระหนี้ราว 30 วัน ซึ่งถือว่านานกว่ากำหนดเวลาที่รัฐบาลในเขตยูโรโซนประเมินไว้ในตอนแรก ทั้งนี้เป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลงอย่างต่อเนื่องและการปิดธนาคารของกรีซในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความสามารถในการหาเงินมาชำระหนี้ของรัฐบาลกรีซลดลงไปด้วย ขณะเดียวกันเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่า พรรคการเมืองต่างๆของกรีซเริ่มมีความแตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆก่อนที่รัฐสภากรีซจะลงมติเรื่องร่างกฎหมายปฏิรูป 4 ฉบับตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้ในวันนี้

ด้านนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสและนายยานิส วารูเฟกิส อดีตรัฐมนตรีคลังของกรีซใช้รายงานล่าสุดของไอเอ็มเอฟ เป็นเหตุผลสนับสนุนข้อโต้แย้งของเขาที่ว่า แผนช่วยกู้วิกฤติตามข้อเสนอของเจ้าหนี้ไม่สามารถจะแก้ไขวิกฤติของกรีซในระยะยาว ดังนั้นการที่รัฐบาลกรีซเรียกร้องให้มีการผ่อนผันระยะเวลาการชำระหนี้จึงถือว่าเหมาะสมแล้ว

ทีมข่าวต่างประเทศ

CR:BBC,AFP