ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารแผนการขาย TikTok ในสหรัฐ ให้นักลงทุนอเมริกันและทั่วโลก

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพฤหัสบดี ประกาศว่าแผนการขายกิจการของแอปพลิเคชัน “ติ๊กต็อก” ในสหรัฐ ซึ่งมีบริษัทจีนเป็นเจ้าของ ให้กับนักลงทุนชาวอเมริกันและนักลงทุนทั่วโลกนั้น จะสามารถแก้ไขข้อกำหนดด้านความมั่นคงของชาติที่ระบุไว้ในกฎหมายปี 2024 ได้

          คำสั่งของนายทรัมป์ ระบุว่า “อัลกอริทึม” (Algorithm) ของติ๊กต็อกจะถูกเฝ้าติดตามตรวจสอบโดยพันธมิตรด้านความปลอดภัยของบริษัทสหรัฐแห่งใหม่ และการดำเนินงานของอัลกอริทึ่มจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกิจการร่วมค้า (joint venture) ที่จัดตั้งใหม่นี้

          นายทรัมป์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้แสดงความเห็นชอบต่อแผนการดังกล่าว นายทรัมป์ ระบุว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นไปด้วยดี โดยได้แจ้งสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ และนายสี ก็บอกให้ดำเนินการต่อไปได้เลย

          นายทรัมป์ ให้เครดิตกับติ๊กต็อก แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยม ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐถึง 170 ล้านคน ว่ามีส่วนช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อปีที่แล้ว และตัวเขามีผู้ติดตาม 15 ล้านคน ในบัญชีติ๊กต็อกส่วนตัว นอกจากนี้ทำเนียบขาวยังได้เปิดตัวบัญชีติ๊กต็อกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้วด้วย หลังจากนี้ติ๊กต็อกจะถูกดำเนินการโดยชาวอเมริกันอย่างเต็มที่

          สำหรับ ผู้ที่จะเข้าร่วมในข้อตกลงนี้ ได้แก่ ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) ผู้ก่อตั้ง ประธานและซีอีโอของ Dell Technologies, รูเพิร์ต เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) ประธานกิตติมศักดิ์ของ Fox Corp (เจ้าของ Fox News) และบริษัทสิ่งพิมพ์ News Corp รวมถึงนักลงทุนระดับโลกชั้นนำอีก 4 หรือ 5 ราย

          ด้านรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ กล่าวว่า บริษัทสหรัฐแห่งใหม่นี้จะมีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 450,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการประเมินราคาแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้ที่ต่ำกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์บางรายมาก

          การเผยแพร่คำสั่งฝ่ายบริหารนี้แสดงให้เห็นว่าทรัมป์มีความคืบหน้าในการขายสินทรัพย์ของติ๊กต็อกในสหรัฐ แต่ยังมีรายละเอียดจำนวนมากที่ต้องได้รับการสรุป รวมถึงวิธีการที่นิติบุคคลของสหรัฐ จะใช้อัลกอริทึ่มแนะนำ (recommendation algorithm) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของติ๊กต็อก

          นายแวนซ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ว่า มีการต่อต้านบางอย่างจากฝ่ายจีน แต่สิ่งพื้นฐานที่สหรัฐต้องให้สำเร็จคือ ต้องการให้ติ๊กต็อกยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่ก็ต้องการทำให้แน่ใจว่าเราได้ปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของชาวอเมริกันตามที่กฎหมายกำหนดด้วย

          ทำเนียบขาวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าพวกเขาได้ข้อสรุปมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์ นี้ได้อย่างไร ปัจจุบัน ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่สัญชาติจีนของติ๊กต็อก ประเมินมูลค่าตนเองไว้ที่มากกว่า 330,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามแผนการซื้อหุ้นคืนจากพนักงานล่าสุด โดยติ๊กต็อกมีส่วนสร้างรายได้รวมของบริษัทในสัดส่วนเพียงเล็กน้อย  

#ขายTikTok

แฟ้มภาพ