โฆษกหญิงสำนักงานตำรวจฟิลิปปินส์แถลงในวันจันทร์ (22) ว่า ในบรรดาผู้ถูกควบคุมตัว 216 คน มีอย่างน้อย 88 คนเป็นเยาวชน อิสโก มอเรนา นายกเทศมนตรีมะนิลาซิตี้ แถลงว่า ผู้ถูกจับกุมที่อายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี
ด้านกระทรวงสาธารณสุขแถลงในวันเดียวกันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คนที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมะนิลา ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจระบุว่า ตำรวจ 93 นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะในวันอาทิตย์
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ชาวฟิลิปปินส์จำนวนหลายหมื่นคนไปชุมนุมกันที่อุทยานประวัติศาสตร์และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในกรุงมะนิลา หลังไม่พอใจ การทุจริตอื้อฉาวเกี่ยวกับโครงการป้องกันน้ำท่วมซึ่งมีอยู่หลายโครงการ และถูกพาดพิงเกี่ยวข้องกับสมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่รัฐบาล รวมทั้งบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่า รับสินบนก้อนใหญ่จากโครงการเหล่านี้
เริ่มต้นการชุมนุมส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสันติ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายที่กินเวลาราวหนึ่งชั่วโมงขึ้นมา โดยกลุ่มคน 100 คนที่ส่วนใหญ่ใช้ไม้กระบองเป็นอาวุธ ได้เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย โดยตำรวจก็ใช้แก๊สน้ำตาตอบโต้
ทั้งนี้ตำรวจระบุว่าพวกผู้ก่อความรุนแรงได้ก่อเหตุเผารถตำรวจ พ่นสีบนกำแพง รื้อถอนป้าย ทุบกระจก และบุกเข้าไปในล็อบบี้ที่พักราคาประหยัดแห่งหนึ่งบนถนนที่เป็นที่ตั้งสถาบันการศึกษา ธนาคาร และร้านอาหาร ก่อนที่คนเหล่านั้นจะสลายตัวในคืนวันอาทิตย์
หลังเหตุการณ์รุนแรงสิ้นสุดลงหลายชั่วโมง ตำรวจยังคงไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุ และไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คนเหล่านั้นเข้าร่วมการชุมนุมเดินขบวนอย่างสันติที่มุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีหรือไม่ รวมทั้งไม่มีใครรู้ว่า ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ อยู่ในทำเนียบมาลากันยังขณะที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายหรือไม่
ก่อนหน้านี้ มาร์กอส จูเนียร์ ได้กล่าวถึงเมื่อเดือนกรกฎาคมระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี และต่อมาเขาสั่งจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนความผิดปกติของโครงการควบคุมน้ำท่วมเหล่านี้จำนวนมาก จากทั้งหมด 9,855 โครงการ ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 9,500 ล้านดอลลาร์ ที่มีการดำเนินการนับจากที่ตัวเขาเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเมื่อกลางปี 2022 ทั้งนี้มาร์กอสได้ออกปากวิจารณ์ว่า เป็นการทุจริตขนาดใหญ่อย่างน่ากลัว และจากนั้นเขาได้ยอมรับการลาออกของรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการ
โครงการอื้อฉาวนี้ยังทำให้ทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ลาออกจากตำแหน่ง ระหว่างการสอบสวนอีกด้วย
ด้านกระทรวงการคลังประเมินว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ประสบความสูญเสียจากการคอร์รัปชั่นในโครงการควบคุมน้ำท่วมเป็นมูลค่าถึง 2,000 ล้านดอลลาร์นับจากปี 2023-2025 ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซเชื่อว่า ตัวเลขจริงอาจเกือบถึง 18,000 ล้านดอลลาร์
ความไม่พอใจของประชาชนปะทุขึ้นเมื่อสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างหลายแห่งที่คว้าสัญญาโครงการควบคุมน้ำท่วมมูลค่ามหาศาล อวดรถยนต์หรูสัญชาติยุโรปและอเมริกันของตนระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ ในจำนวนนี้รวมถึงรถหรูสัญชาติอังกฤษสนนราคาคันละ 737,000 ดอลลาร์ที่ทั้งคู่บอกว่า ซื้อเพราะผู้ขายแถมร่มให้ 1 คัน
#ทุจริตฟิลิปปินส์