ทนายความวัดนาป่าพง นำเอกสารยื่นตร.-สีกาเยอรมัน กลับไทย ให้ข้อมูลตร. 2 ต.ค.นี้

วันนี้, 14:24น.


          ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ “พระคึกฤทธิ์” โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ถูกร้องเรียนกรณีนำเงินวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์



          พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทนายความของวัดได้นำหนังสือและเอกสารพยานหลักฐานชี้แจงข้อเท็จจริงมายื่นให้กับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวเอกสารหลักฐานดังกล่าวว่ามีเนื้อหาอย่างไรบ้าง



          ส่วนประเด็นข้อสงสัยกรณีการร้องเรียนโต้แย้งกันระหว่างพระคึกฤทธิ์กับสีกาเยอรมนีนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เท่าที่ประเมินน่าจะมีปัญหาส่วนตัวหรือความขัดแย้งบางอย่าง โดยสรุปแล้วคดีนี้เกี่ยวข้องกับการโอนเงินจากต่างประเทศเพื่อสร้างสาขาหรือมูลนิธิที่เกี่ยวกับวัด แต่ต้องตรวจสอบต่อว่าถูกต้องตามระเบียบหรือใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่



          นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังบอกอีกว่า “สีกาเยอรมนี” จะเดินทางกลับยังประเทศไทยในเร็วๆนี้ ซึ่งตอนนี้ได้มีการนัดหมายจะเดินทางมาจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเองในวันที่ 2 ต.ค. ที่จะถึงนึ้ ซึ่งจะมีการสอบปากคำอย่างละเอียดข้อเท็จจริงต่างๆเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียด ส่วนความคืบหน้าในส่วนของสำนวนคดีที่มีการแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช. ขณะที่ บก.ปปป. มีอำนาจสอบสวนร่วมและรอผลการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อความชัดเจนต่อไป



          สำหรับการตรวจสอบเส้นทางเงินต่างๆของวัด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องรอผลการตรวจสอบให้แน่ชัดอย่างละเอียดก่อนโดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป



          รวมถึงการตรวจสอบเส้นเงิน 12.2 ล้านบาท ที่โอนจากบัญชีวัดเข้าบัญชีมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนี ด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า หากเงินบริจาคภายในวัดนาป่าพงมีความผิดจริงเงินที่โอนไปยังพุทธวจนประเทศเยอรมนีก็จะต้องมีความผิดด้วย แต่ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็อยู่ระหว่างการทำงานจึงอยากให้เวลาเจ้าหน้าที่ก่อน



          เมื่อถามว่าการนำเงินวัดไปอยู่ในบัญชีส่วนตัวรวมถึงพบว่าเงินบางส่วนยังอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ทำให้เกิดข้อกังขาว่ามีเจตนาไม่ถูกต้องหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ต้องสอบถามข้อมูลจากมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงจะสามารถสรุปได้ชัดเจน



          สำหรับเอกสารหลักฐานชี้แจง ที่ทนายความวัดนาป่าพง นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ประกอบการพิจารณา นั้น เบื้องต้น เป็นเอกสารชี้แจง กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวตามสื่อต่างๆว่า “พระคึกฤทธิ์” ฉ้อโกง หรือ ยักยอกเงินของวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ในช่วงระหว่างปี 2555-2559 โดยเนื้อหาเอกสารชี้แจงดังกล่าวมีการระบุเนื้อหาอ้างว่า ในช่วงปี 2555-2559 “พระคึกฤทธิ์” ได้นำเงินที่ชาวบ้าน หรือ ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคหรือทำบุญให้กับวัด ไปใช้จัดทำโครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ พัฒนาวัด หลายโครงการจริง ซึ่งมีโครงการหลักๆที่สำคัญอยู่ 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการกองทุนผ้าป่าเพื่อซื้อและพัฒนาที่ดินด้านข้างวัดนาป่าป่าพง จำนวน 2 แปลง 2. โครงการเผยแผ่ธรรมด้วยการจัดพิมพ์หนังสือธรรม 3. โครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยการประชุมธรรมนานาชาติ ในประเทศอินเดีย 2 ครั้ง และ ในประเทศไทย 1 ครั้ง 4. โครงการปรับปรุงก่อสร้างกุฏิวิหารภายในวัด ซึ่งทั้งหมดได้ดำเนินจัดทำจนแล้วเสร็จครบทุกโครงการตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค



          นอกจากนี้หนังสือชี้แจงดังกล่าวยังอ้างว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงประชาชน” หรือ ยักยอกเงินของวัด ในช่วงปี 2555 – 2559 นั้น เคยเป็นคดีความถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในกรอบกระบวนการยุติธรรมทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ มาก่อนแล้ว ซึ่งต่อมาทางพนักงานอัยการได้มีความเห็นไม่ฟ้อง อีกทั้งต่อมาตัวผู้ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวยังยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด และ “พระคึกฤทธิ์” เองก็ไม่ได้กระทำผิดตามที่เคยมีการกล่าวหา โดยแนบเอกสารการโอนที่ดินกรรมสิทธิ์ของวัด หลักฐานหนังสือจากอัยการที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีต่างๆในอดีต รวมไปถึงเอกสารคำชี้แจงต่างๆมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ใช้ประกอบกานพิจารณา



#เงินวัดนาป่าพง

ข่าวทั้งหมด

X