ททท. เผยเงินบาทแข็ง กระทบรายได้ท่องเที่ยววูบ 15-17%

22 กันยายน 2568, 13:20น.


          น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-19 กันยายน 2568 เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อต้นปีอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มต้นที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ             



          ณ.วันที่ 19 กันยายน 2568 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 31.6 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ การแข็งค่าของเงินบาทกระทบต่อการตัดสินใจท่องเที่ยว โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะส่งผลให้ต้นทุนในการเดินทางสูงขึ้น ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าอาหาร เป็นต้น



          ค่าเงินหยวนอยู่ที่ 7.2963 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงประมาณ 2.65% จาก 1 มกราคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเงินจีนอยู่ที่ 7.1028 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนญี่ปุ่นขณะนี้อยู่ที่ 147.9490 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงประมาณ 6.22% จาก 1 มกราคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเงินญี่ปุ่นอยู่ที่ 157.7226 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดองเวียดนามขณะนี้อยู่ที่ 26,374 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 3.38% จาก 1 มกราคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเวียดนามอยู่ที่ 25,510 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ     



          ผู้ว่าททท. กล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งค่าเงิน สวนทางกับประเทศคู่แข่งอย่างเช่นญี่ปุ่นอ่อนค่า 6.22% จีนอ่อนค่า 2.65% และเวียดนามอ่อนค่า 3.38% ส่งผลให้ ททท.ประเมินผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติแลกเงินเป็นเงินบาทจะได้จำนวนเงินน้อยลง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไทยสูงขึ้น เช่น ราคาห้องพัก โรงแรม ร้านอาหาร และค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวอาจดูแพงขึ้น ทำให้ความน่าสนใจของไทยลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ จะทำให้ไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 15-17% จากการที่ต่างชาติมองว่าการเดินทางเข้าไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่ง ทั้งจีน เวียดนาม และญี่ปุ่น ทั้งค่าอยู่ ค่ากิน จากงบประมาณที่วางไว้ ทำให้มีการใช้จ่่ายเพิ่มขึ้น  บางคนหนีไปเที่ยวประเทศค่าเงินถูกกว่าไทย แถมคนไทยที่พอจะมีเงินก็หนีไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น และเวียดนามที่มีค่าเงินอ่อนกว่าไทย 



 



#ททท



#เงินบาทแข็งกระทบท่องเที่ยว

ข่าวทั้งหมด

X