ผบ.สส.ย้ำ ปิดด่านไทยกัมพูชา จนกว่าเขมรจะไม่เป็นภัยคุกคามไทย-ส่งต่อภารกิจ ปิด-สร้าง-สู้

วันนี้, 16:07น.


          พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงภายหลังการประชุมผู้บัญชาการทางทหาร และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า ได้ฝากภารกิจให้กับ ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ คือเรื่อง “ปิด-สร้าง-สู้” โดยที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งด่านถาวรและด่านชั่วคราว ซึ่งเราได้เสนอไปยังรัฐบาล เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน  เรื่องการ ”สร้าง “ คือ การสร้างรั้วตามชายแดนและการสร้างแนวป้องกัน  เพื่อช่วยเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ในเรื่องการสู้ คือ เรื่องการใช้กำลังตามแนวชายแดนที่มีการปรับรูปแบบไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2554 ที่มีการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ ที่มีการลักลอบวางระเบิด บินโดรน และการใช้มวลชนกดดัน ซึ่งการใช้กำลังต้องถูกต้องตามกฎหมายเราและกฎหมายสากลระหว่างประเทศ



          ส่วนกรณี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงท่าทีมีความพร้อมสู้ ถ้าไทยรุกกัมพูชา ฝ่ายไทยเตรียมพร้อมอย่างไร พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า ที่เราปฏิบัติตั้งวันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นมา ฝ่ายไทยเตรียมพร้อมตลอดเวลา วันนี้จึงต้องมีส่งต่อให้ ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ เพื่อไม่เป็นภาระของ ผบ.เหล่าทัพ รุ่นต่อไป



           ที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น ปิด-สร้าง-สู้



1. การปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา โดย ที่ประชุม คบท. เห็นชอบให้คงสภาพปัจจุบันในการปิดด่าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือกัมพูชาไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทยอีกต่อไป



2. เห็นว่าปัจจุบันกัมพูชายังถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ จึงจัดทำรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีข้อสรุปสำหรับการสร้างรั้วชายแดน เห็นควรสร้างในพื้นที่เส้นเขตแดนที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว สำหรับ

ในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จะใช้มาตรการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่องรวมทั้งให้มีการสร้างเส้นทางยุทธวิธีตลอดแนว



3. แนวทางดำเนินการต่อการละเมิดอธิปไตยของไทย โดยมีข้อสรุปดังนี้ คือ การดำเนินการตามกฎการ

ใช้กำลังสากล (ROE — Rules of Engagement) เมื่อการกระทำเข้าข่ายการกระทำที่เป็นปรปักษ์ (Hostile Act) หรือเจตนาที่เป็นปรปักษ์ (Hostile Intent) โดยเฉพาะหากเป็นการสอดแนมหรือเตรียมโจมตี ซึ่งตามกฎกาใช้กำลัง สามารถใช้เป็นเหตุเริ่มการป้องกันตนเองได้ โดยได้วางมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ



          ทั้งนี้ ได้นำเสนอ แนวทางการปฏิบัติไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว



 

ข่าวทั้งหมด

X