ยกฟ้อง!'อัญชะลี ภูวดล ยุทธิยง'-คุก 6 เดือนน้องชายสนธิ ไม่รอลงอาญา คดีบุก NBT ปี 51

19 กันยายน 2568, 15:58น.


          ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หมายเลขคดีดำ.อ1033/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เสียชีวิตแล้ว,น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วม พธม. และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่10คนขึ้นไปอั้งยี่ ซ่องโจร เป็นหัวหน้าสั่งการ บุกรุกสถานที่ราชการทำให้เสียทรัพย์



          ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในส่วนของจำเลยที่ 1-3 พยานโจทก์ และพยานหลักฐานอื่น ๆ มีน้ำหนักน้อย ยังมีข้อสงสัยว่า จำเลยทั้ง3 เดินทางไปสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT ในเวลาใด รวมทั้งไม่มีพยานหลักฐานมาสนับสนุนว่า จำเลยที่ 1-3 ให้คำปรึกษา คำแนะนำ หรือสั่งการกับกลุ่มมวลชนกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1-3ที่ศาลล่างทั้งสอง พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1-3 นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 1-3 ที่อ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือสั่งการนั้นฟังขึ้น



          ส่วนจำเลยที่ 4 พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องต้องกัน เห็นว่า จำเลย เป็นผู้สั่งการมวลชนกลุ่มพันธมิตรทั้งข่มขู่เจ้าหน้าที่ให้เกิดความกลัวโดยนับถอยหลัง 1- 60 ให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ การออกอากาศ ให้รีบออกจากอาคารที่ทำการ การทำลายประตูทางเข้า และทรัพย์สินอื่นเสียหายกว่า 6 แสนบาท และภาพจำเลยที่4 พูดโทรศัพท์ในบริเวณห้องโถงของอาคารมีน้ำหนัก ข้ออ้างจำเลยที่ 4 ฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ตามที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 มานั้นหนักเกินไป เห็นควรปรับโทษเสียใหม่ให้เหมาะสม



          ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ ให้จำคุกจำเลยที่ 4 รวม 8 เดือน คำให้การจำเลยที่ 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้1ใน4 คงจำคุกจำเลยที่ 4 ไว้ 6 เดือนไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 1-3 พิพากษายกฟ้อง โดยภายหลังมวลชนจำนวนหนึ่งที่มาให้กำลังใจเมื่อทราบผลคำพิพากษาก็โห่ร้องปรบมือด้วยความดีใจ



          ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวนายชิติพัทธ์ จำเลยที่ 4 ไปควบคุมไว้บริเวณใต้ถุนศาล เพื่อเตรียมนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป



         สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2563 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 5 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาให้ลงโทษบทหนักสุด ฐานร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยให้จำคุกนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี จำคุก น.ส.อัญชะลี จำเลยที่ 2 นายภูวดล จำเลยที่ 3 นายยุทธิยง จำเลยที่ 4 และนายชิติพัทธ์ จำเลยที่ 5 คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่สำหรับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 1 ได้เสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ย.2564 และศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี เฉพาะนายสมเกียรติออกจากสารบบความ



          ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2565 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยได้ตัดสินจำคุกอดีตแกนนำพันธมิตรทั้ง 4 คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และทั้งหมดได้มายื่นขออนุญาตฎีกา โดยยื่นคำฎีกาและเอกสารประกอบในขั้นตอนการฎีกาต่อสู้คดี



          คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก มั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ซ่องโจรฯ กรณีร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551



 #พันธมิตรบุก



#NBT

ข่าวทั้งหมด

X