แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การที่เครื่องบินรบของโปแลนด์ และพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) ช่วยกันยิงสกัดโดรนหลายลำจากรัสเซีย ขณะบินรุกล้ำน่านฟ้าโปแลนด์เมื่อวันที่ 9-10 ก.ย.เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯและพันธมิตรชาติตะวันตก ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆเช่น ลักษณะและทิศทางการบินของโดรน ตลอดถึงข้อมูลเฉพาะทางเทคนิคที่ตรวจจากซากโดรน ยังไม่อาจจะฟังธงว่า เป็นการส่งโดรนบินรุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์โดยเหตุบังเอิญ หรือเกิดจากการที่รัสเซียจงใจส่งโดรนเข้ามา หวังทดสอบระบบป้องกันทางอากาศของพันธมิตรในการช่วยเหลือโปแลนด์ สมาชิกนาโต พร้อมทั้งอาจจะต้องการหยั่งดูวิธีการตอบโต้จากนาโต
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ เตือนว่า ไม่ว่าผลการสอบสวนจะออกมาในทิศทางใด แต่เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่น่าเป็นกังวลคือ รัสเซียต้องการจะสร้างความไม่พอใจให้กับนาโต สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสคนหนึ่งจากชาติตะวันตก เปิดเผยว่า การส่งโดรนบินรุกล้ำน่านฟ้าเช่นนี้ถือเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตราย สะท้อนว่า วิธีคิดของรัสเซียเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม คือ พร้อมยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นคือ การเปิดแนวรบใหม่กับสมาชิกนาโต
แม้ว่ายูเครน โปแลนด์และอีกหลายชาติในยุโรปมั่นใจว่า รัสเซียส่งโดรนบินเข้ารุกล้ำโปแลนด์โดยเจตนา แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมคนหนึ่งของสหรัฐฯประเมินว่า มีโอกาส 50-50 ที่รัสเซียจงใจส่งโดรนบินล้ำน่านฟ้าโปแลนด์ สอดคล้องกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ซึ่งมองว่า เมื่อไม่มีความชัดเจนในเรื่องการวิเคราะห์เจตนาของรัสเซีย สมาชิกนาโต 32 ประเทศ จึงไม่อาจจะจะลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในเรื่องวิธีการตอบโต้ต่อรัสเซีย นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ข่าวกรองชาติตะวันตกตั้งข้อสังเกตถึงรูปแบบการบินของโดรนว่า การที่ยูเครนปล่อยสัญญาณวิทยุ รบกวนคลื่น GPS ที่ติดตั้งอยู่ในโดรนในช่วงเวลาดังกล่าว อาจจะทำให้โดรนบินออกนอกเส้นทาง แม้พยายามจะเชื่อมต่อระบบสัญญาณ GPS อีกครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ
#ข่าวกรองสหรัฐ
#โดรนรัสเซียล้ำน่านฟ้าโปแลนด์
ที่มา: cnn