นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำและมาตรการป้องกันน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง, นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน, นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันว่า ทุกแห่งมีความพร้อมรับมือสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ โดยมีการลงทุนรวมกว่า 1,857 ล้านบาทเพื่อสร้างเขื่อนป้องกัน
โดยที่นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง สถานการณ์ปกติ มีเขื่อนป้องกันความยาว 5.5 กม. สูง 8.15 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดในปี 2554 (7.54 เมตร รทก.)
นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน สถานการณ์ปกติ มีระบบป้องกันที่ระดับความสูง +6.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) . สูงกว่าระดับน้ำท่วมปี 2554 (4.28 เมตร รทก.) อย่างชัดเจน
นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า สถานการณ์ปกติ มีแนวป้องกันน้ำท่วมยาว 11 กม. ที่ระดับความสูง +5.40 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำท่วมในปี 2554 (4.90 เมตร รทก.)
นิคมอุตสาหกรรมบางปู สถานการณ์ปกติ ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 53% มีแผนดำเนินให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2569 โดยจะสามารถสูบระบายน้ำได้ 160,000 ลูกบาศก์ต่อชั่วโมง
ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า แผนการดำเนินงานครอบคลุม 4 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย
1.ด้านโครงสร้าง การบำรุงรักษาและเสริมความแข็งแกร่งของกำแพงป้องกันอย่างสม่ำเสมอ 2.ด้านเครื่องจักร ที่มีการเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำกำลังสูงและระบบสำรองให้ใช้งานได้ทันที
3.ด้านการบูรณาการ โดยการทำงานร่วมกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามข้อมูลน้ำแบบเรียลไทม์
4.ด้านการเตรียมพร้อม มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินร่วมกับโรงงาน และมีระบบสื่อสารแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ บทเรียนจากมหาอุทกภัยปี 2554 ทำให้ต้องลงทุนเพื่อความมั่นคงในระยะยาว การลงทุนทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่การป้องกันทรัพย์สิน แต่คือการสร้างความเชื่อมั่นว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน และประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้
...
#นิคมอุตสาหกรรม
#แผนป้องกันน้ำท่วม