ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (18 ก.ย.68) ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ที่ประชุมพิจารณา ร่างกฎหมายในกลุ่มของท้องถิ่น และการแก้ไขคุณสมบัติของบุคคลผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นผู้บริรหารท้องถิ่น ซึ่งมี สส.ร่วมกันเสนอรวม 10 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่...) พ.ศ... จำนวน 3 ฉบับ เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชน ร่างพ.ร.บ. สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่...) พ.ศ... จำนวน 3 ฉบับ เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนและพรรคชาติไทยพัฒนา ร่างพ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับที่...) พ.ศ... จำนวน 3 ฉบับเสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาชน และร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่..) พ.ศ... เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับคณะ
โดยมีสาระสำคัญคือการลดอายุของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ทั้ง ระดับ อบจ. อบต. และ เทศบาล จากเดิมที่กำหนดให้ต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป เปลี่ยนเป็นอายุ 25 ปี และให้ตัดข้อกำหนดว่าด้วยการจำกัดวาระดำรงตำแหน่ง ที่ห้ามดำรงตำแหน่งเกิน 2 สมัยออกไปเพื่อเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิและเสรีภาพในระบอบการปกครองอย่างเต็มที่ หลังการอภิปรายจึงเป็นการลงมติแยกทีละกลุ่มร่างกฎหมาย ซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการด้วยเสียงเอกฉันท์ทั้งหมด และเห็นชอบให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 33 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 15 วัน และให้ใช้ร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคประชาชนเป็นหลักในการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในการลงมติครั้งนี้มี สส.มาแสดงตนและลงมติเกินจำนวนกึ่งหนึ่งของที่ประชุมเพียง 2-5 เสียงเท่านั้น
...
#ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
#การปกครองท้องถิ่น