นักวิเคราะห์คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ ท่ามกลางกระแสกดดันจากทรัมป์

17 กันยายน 2568, 15:00น.


          นางไดแอน สวองก์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท KPMG และนายเกรกอรี ดาโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท EY เปิดเผยว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลาง(เฟด)ของสหรัฐฯ จะมีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้(2568) ทั้งคาดว่า เฟดจะต้องเผชิญกระแสกดดันทางการเมืองที่สูงขึ้นในระยะต่อๆไปและมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดปัญหาความแตกแยกในองค์กรเฟด



          โดยเฉพาะหลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์(14 ก.ย.)ด้วยเสียงส่วนใหญ่ 48-47 เสียง รับรองให้ นายสตีเฟน มิแรน ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เข้ามาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการเฟด ควบคู่ด้วย โดยมีสว.อีก 5 คนงดออกเสียง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์จากพรรคเดโมแครตว่า รัฐบาลทรัมป์ใช้อิทธิพลทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเฟด ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ



          นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้(17 ก.ย.) วันที่ 2  ของการประชุม เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0.25 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.00-4.25 จากปัจจุบัน ที่ร้อยละ 4.25-4.50 เพื่อรับมือกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง  แต่สิ่งที่ไม่แน่นอน ยังต้องจับตาดูกันต่อไปคือ ช่วงเวลาและขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อๆไป



          โดยหลักการ เฟดมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไปจนกว่าจะลดมาอยู่ตามเป้าที่ร้อยละ 2 หรือ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่เฟดต้องการจะช่วยประคับประคองตลาดแรงงาน ซึ่งอ่อนแอลง มีการจ้างงานใหม่เพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์คือ 75,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในเดือนส.ค.อยู่ที่ร้อยละ 2.9



#ประชุมเฟด



#คาดปรับลดดอกเบี้ย



ที่มา: afp

ข่าวทั้งหมด

X