ศาลอุทธรณ์ประจำเขตดิสทริกท์ โคลัมเบีย กรุงวอชิงตันดี.ซี.สหรัฐฯ มีมติด้วยเสียงส่วนใหญ่ 2 ต่อ 1 เสียง หลังการไต่สวนฉุกเฉินเมื่อวานนี้(15 ก.ย.) ให้ยกคำสั่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีสั่งปลด น.ส.ลิซา คุก จากตำแหน่งกรรมการบริหารของธนาคารกลาง(เฟด)ของสหรัฐฯในเดือนส.ค.สืบเนื่องจากมีข้อครหาเรื่องการฉ้อโกงกู้เงินซื้อบ้าน ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการเฟด
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติควบคุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจะสั่งปลดกรรมการบริหารเฟดเฉพาะในกรณีที่มีเหตุอันสมควร แต่ศาลอุทธรณ์โดยเสียงส่วนใหญ่ เห็นว่า ข้อกล่าวเรื่องการฉ้อโกงเงินซื้อบ้าน เกิดขึ้นก่อนน.ส.คุกเข้ารับตำแหน่งในปี 2565 ยังไม่ถือเป็นเหตุอันสมควรในการปลดเธอจากตำแหน่ง
นอกจากนั้น ศาลเห็นว่า รัฐบาลทรัมป์ไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนการสอบสวนทางวินัย เช่น การส่งหนังสือเรียกน.ส.คุก ให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหา ก่อนสั่งปลดจากตำแหน่ง จึงเป็นการใช้อำนาจปลดที่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติว่าด้วยกระบวนการอันชอบธรรม(due process clause) ตามที่รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 5 คุ้มครองไว้คือ หลักการปกครองที่ให้รัฐปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นกลางและครบถ้วนตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนใช้อำนาจที่กระทบสิทธิเสรีภาพ ชีวิต และทรัพย์สินของบุคคล
การชี้ขาดคดีของศาลอุทธรณ์มีขึ้น ก่อนคณะกรรมการเฟดจะประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน 2 วัน เริ่มจากวันนี้(16-17 ก.ย.) ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2 คือ 17 ก.ย.นี้ แต่เบื้องต้น ยังไม่มีใครทราบอย่างชัดเจนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากน้อยเพียงไรในการประชุมครั้งนี้และครั้งต่อๆไป เบื้องต้น ทำเนียบขาวยังไม่แสดงความเห็นว่า รัฐบาลทรัมป์จะส่งคดีไปให้ศาลฎีกาชี้ขาด ต่อไปหรือไม่
#ศาลอุทธรณ์สหรัฐ
#ห้ามทรัมป์ปลดกรรมการเฟด
ที่มา: cnn