ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 15 กันยายน 2568 (ณ เวลา 14.00 น.) สถานการณ์โดยรวม ตรวจพบความเคลื่อนไหวและการปรับปรุงฐานที่มั่นของฝ่ายกัมพูชาในบางพื้นที่ ตรวจพบโดรนในพื้นที่แนวชายแดน 32 ครั้ง 57 ลำ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
มีรายงาน กรณีที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับการรุกล้ำอธิปไตยด้านพื้นที่จังหวัดตราด กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ทางกองทัพเรือขอขอบคุณที่ช่วยนำเสนอข้อมูลต่อสาธารณชนซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิตามมาตราส่วน 1:50000 ล้ำเข้ามาประกอบด้วย
จุดที่ 1 เป็นกองร้อย ตชด.825 (กัมพูชา)ซึ่งมีอาคารล้ำเข้ามาประมาณ 15 เมตร
จุดที่ 2 เป็นแนวคูเลตบริเวณสวนยาง ซึ่งมีบางส่วนของพื้นที่สวนยางล้ำเข้ามาในพื้นที่อ้างสิทธิของประเทศไทย ประมาณ 125 เมตร
จุดที่ 3 เป็นกองร้อย ลว.ที่ 1 ของ พัน.ปชด.501 ของกัมพูชา ซึ่งมีแนวคูเลตล้ำเข้ามาในพื้นที่อ้างสิทธิของประเทศไทย ประมาณ 30 เมตร
ทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าว กปช.จต.ดำเนินการทำหนังสือประท้วงตามขั้นตอนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในปัจจุบันการประชุม คณะกรรมการส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ครั้งที่ 2 จังหวัดไพริน ประเทศกัมพูชา ได้ดำเนินการพูดคุยกับทางภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบกกัมพูชา ดังนี้
1.ให้กำลังพลของฝ่ายกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวออกจากพื้นที่
2.จะต้องไม่มีการดำเนินการสร้างหรือขุดเพิ่มเติม หลังจากนี้ทาง กปช.จต. จะดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิดให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
อย่างไรก็ตาม กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ยังคงยืนยันเจตนารมณ์แน่วแน่ว่าจะปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลัง เพื่อไม่ให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตยของชาติแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
ด้านพล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นาย Deng Xijun (เติ้ง ซีจวิน) ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือประเด็นสถานการณ์ภูมิภาค โดยเฉพาะประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นที่จับตามอง ของหลายฝ่าย ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนในทุกมิติ