ธปท. ปรับเกณฑ์ปลดล็อกบัญชี ช้าสุดไม่เกิน 4 ชม.แจ้งก่อนทุ่มต้องเสร็จสิ้นในวัน

วันนี้, 17:27น.


          นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ความคืบหน้ามาตรการจัดการบัญชีม้า เนื่องจาก ธปท.ตระหนักถึงผลกระทบของมาตรการจัดการบัญชีม้า โดยได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ และเร่งแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ โดยได้มีการระงับธุรกรรมทางการเงินของบัญชีในเส้นเงินที่ต้องสงสัย ทำให้มีการกวาดบัญชีผู้สุจริตเข้ามาเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย ซึ่งจากการหารือร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และธนาคารพาณิชย์แล้ว ได้เห็นชอบร่วมกันในการปรับแนวทางการระงับธุรกรรมและกระบวนการปลดการระงับ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมถึงการกวาดบัญชีตามเส้นเงินต่างๆ จะต้องดึงผู้สุจริตเข้ามาให้น้อยที่สุด ซึ่งจะกำหนดเงื่อนไขใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้



          สำหรับแนวทางการแก้ไขระงับธุรกรรมในเส้นเงิน และกระบวนการปลดระงับ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์โดยเร็ว  ขณะนี้ ธปท.ได้ให้ธนาคารพาณิชย์ลดระยะเวลาการปลดการระงับให้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 7 วันแล้ว แต่กรณี ตามที่กำหนดใน พ.ร.ก. โดยธนาคารพาณิชย์จะต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับจาก ศปอท.โดยเร็วที่สุดไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง (วันละ 3 รอบ เวลา 11.00 น. 15.00 น. และ 19.00 น.) ซึ่งจะใช้เวลานานสุดไม่เกิน 4 ชั่วโมง และหากส่งคำร้องเรียนมาก่อน 19.00 น. จะพยายามดำเนินการให้เสร็จสิ้นในวัน เพื่อส่งกลับให้ศปอท. ประมวลผล และส่งกลับมาแจ้งธนาคารพาณิชย์ เพื่อปลดการระงับธุรกรรม เร่งปรับการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้มีความชัดเจน ถึงลักษณะการถูกระงับ และสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบนั้นต้องทำต่อ และให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น



          ระยะเวลาที่ผู้เสียหายจะรู้ตัวว่าถูกหลอก และขอความช่วยเหลือหรือแจ้งความ ใช้เวลาอย่างน้อย 20 ชั่วโมง ทำให้มิจฉาชีพมีเวลาใช้บัญชีที่ทำผิดไปซื้อของหรือทำธุรกรรมการเงินเพิ่มเติมได้ จึงอาจต้องกวาดบัญชีที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นเงินไว้เยอะพอสมควร เพื่อให้นำเงินมาคืนเหยื่อให้ได้มากที่สุด ซึ่งการคัดแยกผู้สุจริตและมิจฉาชีพ จากการกวาดเข้ามาจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบกับผู้บริสุทธิ์บ้าง แต่อยากให้เชื่อว่า ธปท.พยายามหาจุดสมดุลตรงนี้อยู่ โดยเฉพาะเมื่อมีกระแสข่าวเชิงลบที่เกิดขึ้น เราตระหนักดี จึงหาวิธีแก้ไขเร่งปลดระงับให้เร็วที่สุด และชี้ตัวมิจฉาชีพให้ได้



          ขอยืนยันว่า การถูกอายัดบัญชีในกรณีการกระทำทุจริตทางการเงิน จะต้องเป็นผู้ที่มีหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ปปง.ได้พิสูจน์ความผิดแล้ว โดยการปลดอายัดในกรณีนี้จะมีกระบวนการที่ต่างออกไปจากการถูกระงับธุรกรรม หรือยึดวงเงินที่สงสัยว่าถูกโอนเข้ามาแบบผิดปกติไว้ แต่ไม่ได้ระงับวงเงินทั้งหมดในบัญชี เงินส่วนต่างที่มียังสามารถใช้ได้ปกติ และกรณีการถูกอายัดจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการสอบสวนถึงความผิดแล้ว ขณะที่ความกังวลจากกรณีที่เกิดขึ้นจนมีการถอนเงินฝากออกมานั้น จากข้อมูลไม่ได้พบความผิดปกติในการทำธุรกรรมของธนาคารพาณิชย์เกิดขึ้น ทั้งนี้ การทำธุรกรรมโอนเงินไม่ได้จำกัดที่ต้องต่ำกว่า 3,000 บาทจึงจะไม่ถูกตามเส้นเงิน แต่จะพิจารณาจากจำนวนเงินในการทำธุรกรรมที่เข้าข่ายผิดปกติหรือไม่แทน



          จากแนวคิดของมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า ที่ต้องมีการตามอายัดหรือระงับธุรกรรมทุจริต ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมดต้องรักษาสมดุล ระหว่างการช่วยเหลือเหยื่อให้สูญเสียน้อยที่สุด กับความสะดวกในการใช้บริการแอพพลิเคชั่นโมบายแบงกิ้งของประชาชนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาจากมาตรการที่ ธปท.มีออกมาทำให้เห็นแอพพลิเคชั่นดูดเงินจากโทรศัพท์ออกไปเหลือ เป็นศูนย์ต่อเนื่อง แต่ยังมีกรณีคนถูกหลอกให้โอนเงินด้วยตัวเอง เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก ธปท.จึงต้องเข้าไปดูว่ามีข้อใดที่สามารถดูแลให้เข้มข้น เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดหรือจำกัดความเสียหายให้ได้มากที่สุด



 



#ปลดล็อกบัญชี 



#บัญชีม้า



 

ข่าวทั้งหมด

X