ตร.ขอศาลออกหมายค้น วัดบางคลาน หลังพบเงินหายกว่า 30 ล้านบาท - เจ้าอาวาส ไม่เข้าวัด

          การตรวจสอบ "วัดบางคลาน" หลังมีประเด็นว่ามีเงินของวัดหายไป 30-40 ล้านบาท  พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า กรณีวัดบางคลาน ซึ่งพบปัญหามานานกว่า 10 ปี เบื้องต้นตำรวจเข้าพูดคุยกับเจ้าอาวาส เพื่อหาทางออก โดยมีข้อยุติคือให้เจ้าอาวาสบริหารวัด 1 ปี และจะต้องแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี กลับพบการแก้ปัญหายังไม่เสร็จสิ้น และเหมือนจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นตำรวจจึงไปพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปว่าจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร หรือเจ้าอาวาสวัดจะยอมลาออกจากตำแหน่งเพื่อให้ตั้งรักษาการขึ้นมาใหม่หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นจะต้องนำบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ปัญหา โดยอาศัยการปกครองด้วยการใช้ผู้นำชุมชนเป็นตัวตั้ง ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปว่าหลังจากนี้จะขอให้ รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เข้ามารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบางคลาน

          หลังจากนี้ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายเพื่อตรวจสอบเงินของวัดทั้งหมด เพราะพบเห็นความผิดปกติ เช่น เมื่อต้องการจะโอนเงินบริจาคให้วัด หรือเช่าวัตถุมงคลของวัด ซึ่งเดิมการโอนเงินจะต้องเข้าบัญชีมูลนิธิของวัด แต่กลับพบว่าเงินดังกล่าวไปเข้าบัญชีบุคคลอื่น ไม่ใช่ชื่อบัญชีวัด

          จากข้อมูลดังกล่าว ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อขอศาลออกหมายค้น และการเข้าตรวจสอบพบพยานหลักฐานซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นทางการเงินที่มีการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังพบการนำเงินวัดไปแบ่งใส่ซองและถูกนำไปเก็บไว้ที่บ้านของบุคคลอื่น ซึ่งตำรวจมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

          รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวอีกว่า ปัญหาสะสม 10 ปีของวัดบางคลานคือปัญหาเรื่องเงิน พบว่ามีเงินวัดหายไป 35 ล้านบาท จากจำนวนทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ในวัตถุประสงค์ใดและหากผู้เกี่ยวข้องไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตั้งแต่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นวัดยังไม่พบตัวเจ้าอาวาส และจนถึงขณะนี้เจ้าอาวาสก็ยังไม่กลับเข้าวัด

           ก่อนหน้านี้ นายพร ปั้นเพ็ง เลขานุการมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน และอดีตไวยาวัจกรวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ข้อมูลกับสื่อว่าเงินของวัดบางคลานที่เคยมี 105 ล้านบาท สูญหายไป 30–40 ล้านบาท

          นายพรระบุว่า ในช่วงปี 2565–2567 มีหลายหน่วยงาน ทั้ง ปปป. ปปท. ป.ป.ช. ดีเอสไอ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบการเงินของวัดและมูลนิธิแล้ว โดยทางวัดได้มอบเอกสารและหลักฐานทุกอย่างให้ตรวจสอบอย่างโปร่งใส ซึ่งผลสรุปไม่พบการกระทำผิด และมีการยกเลิกคำร้องไปแล้ว

           นายพรย้ำว่า มูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลานเป็นนิติบุคคล หากมีการร้องทุกข์คดียักยอกต้องมาจากมูลนิธิเอง ไม่ใช่บุคคลอื่น อีกทั้งเงินของวัดและมูลนิธิไม่ได้หายตามที่มีข่าว พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีการแจ้งความผู้ที่กล่าวหาว่ามูลนิธิทุจริตไว้แล้วที่ สภ.โพทะเล

           สำหรับความกังวลของชาวบ้านบางคลานนั้น มีการตั้งข้อสังเกตต่อการเข้ามาของบุคคลภายนอกที่เคยมีคดีความเกี่ยวข้องกับวัด อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของอัยการ

          ส่วนการตรวจสอบวัดโสธรวรารามวรวิหาร พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตั้งคณะทำงาน ซึ่งในวันที่ 17 ก.ย. จะมีตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้ามาให้ข้อมูล

#ทุจริตเงินวัด 

#แฟ้มภาพ