นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DUSIT ที่จะเข้าไปรับตำแหน่งรมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลใหม่ นายชนินทธ์ รักษาการประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี [DUSIT] ระบุว่า ซึ่งการทำงานเป็นเพียงระยะเวลาสั้น 4-8 เดือน และเมื่อเสร็จภารกิจนี้แล้ว พร้อมเปิดทางให้นางศุภจีกลับมาคุมทัพต่อไป DUSIT ต้องการโฟกัสให้การดำเนินธุรกิจมีความต่อเนื่อง
หลังจากมีการเปลี่ยนผ่าน ซีอีโอ เป็นนายชนินทธ์ โดยบริษัทได้วางรากฐานธุรกิจไม่ให้สะดุดหยุดนิ่ง ยอดรอรับรู้การโอนที่จะเข้ามาในปีหน้าและจะรับรู้กำไรได้ ส่วนความขัดแย้งภายในครอบครัวผู้ถือหุ้น DUSIT ยังไม่สามารถพูดได้ แต่ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะจบลงได้ เพราะนายชนินทธ์ได้พูดคุยทุกวันเพื่อจะทำให้ข้อขัดแย้งยุติลงให้ได้ ซึ่งก็จะทราบผลในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 ก.ย.นี้ทั้งนี้ในปี 67 บริษัทสามารถทำสถิติรายได้สูงสุดที่ 11,240 ล้านบาท เติบโต 2 เท่าจากปี 59 ที่มี 5,370 ล้านบาท
ด้านนางศุภจี กล่าวว่า ตนเองเข้ามาเป็นกรรมการ DUSIT เมื่อปี 58 และเป็นซีอีโอในปี 59 เกือบครบ 10 ปี ที่ทำงานที่ DUSIT วันนี้ ประเทศไทยเจอความท้าทาย จะเข้าไปช่วยเรื่องปากท้อง ดูแลเศรษฐกิจภาพรวม เชื่อว่าจากประสบการณ์การทำงานที่ ไอบีเอ็ม , บมจ.ไทยคม [THCOM] ที่คลุกคลีกับงานในต่างประเทศ น่าจะนำมาใช้ให้กับเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าไปได้ นอกจากโครงการคนละครึ่ง ก็น่าจะต้องมีการสร้างรายได้ ช่วยดูแลตลาดต่างประเทศ การค้าในประเทศ จะหาศักยภาพว่าจะแข่งขันได้อย่างไร
#เศรษฐกิจไทย
#ดุสิตธานี