การแก้หนี้นอกระบบ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลังที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านมาตรการสินเชื่อต่างๆ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ และสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส
ผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566-11 กันยายน 2568 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินผ่านมาตรการสินเชื่อต่างๆข้างต้นไปแล้วจำนวน 89,238 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 2,689.20 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินการ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2568 จำนวน 1,222 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 33.24 ล้านบาท
น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. สั่งการให้ธนาคารเร่งสร้างความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนแล้ว สำหรับประเด็นการอายัดบัญชีต้องสงสัย เพื่อติดตามเงินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบการทำธุรกรรมของประชาชนส่วนหนึ่งนั้น น.ส.ดารณี กล่าวว่า ธปท. ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบปัญหา และอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงกระบวนการอายัด และการปลดอายัด ให้สามารถจัดการกับมิจฉาชีพและดูแลผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการปกติ รวมทั้งมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการปลดอายัดบัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาในการใช้บริการทางการเงิน และไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีจากสถาบันการเงิน สามารถติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ธปท. ที่หมายเลข 1213 โดย ธปท. จะเร่งให้สถาบันการเงินตรวจสอบ และแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด