นายวลาดีสลาฟ วลาซุค ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายการคว่ำบาตรประจำทำเนียบประธานาธิบดี ยูเครน เปิดเผยว่า ขีปนาวุธครูซ อิสกันเดอร์ รุ่น 9M727 ที่รัสเซียใช้ยิงถล่มอาคารแห่งหนึ่งของรัฐบาลในกรุงเคียฟเมื่อวันอาทิตย์(7 ก.ย.) ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ รวมทั้ง 35 ชิ้น เช่น ชิปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากบริษัทเท็กซัส อินสทรูเมนต์ส,บริษัท อนาล็อก ดีไวเซส,บริษัทอัลเทราและอื่นๆของสหรัฐฯ อีกทั้งพบชิ้นส่วนอื่นๆจากบริษัทญี่ปุ่น อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมเผยแพร่ภาพของซากชิ้นส่วนของขีปนาวุธ พร้อมรายชื่อชิ้นส่วนที่พบในขีปนาวุธ
นักวิเคราะห์ระบุว่า จากเลขซีเรียล (Serial Number)ของอุปกรณ์แต่ละชิ้น แสดงให้เห็นว่า บางชิ้นส่วนผลิตมานานหลายปีแล้ว แต่มีบางชิ้นผลิตเมื่อเร็วๆนี้ รวมถึงผลิตหลังจากรัสเซียบุกยูเครนในปี 2565 ที่ผ่านมา ชาติตะวันตกและพันธมิตร รวมทั้งประเทศทั้ง 4 ตามที่นายวลาซุคเอ่ยถึงข้างต้น ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย และใช้มาตรการที่เข้มงวดในการส่งออกชิ้นส่วนไปต่างแดน เพื่อไม่ให้รัสเซียจัดซื้อมาใช้ผลิตอาวุธเพื่อทำสงครามกับยูเครน แต่การที่ยูเครนพบชิ้นส่วนจากหลายประเทศอยู่ในซากขีปนาวุธของรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า รัสเซียสามารถหาวิธีหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯและชาติตะวันตก
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐฯ ระบุในปีที่แล้ว(2567)ว่า บริษัทเอกชนในประเทศอื่นๆเช่น จีน คาซัคสถานและอื่นๆสั่งซื้อชิปและอุปกรณ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐฯ และส่งออกไปยังรัสเซียอีกทอดหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้รัสเซียสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านั้นในการผลิตขีปนาวุธ
#รัสเซีย
#เลี่ยงคว่ำบาตรจากตะวันตก
ที่มา: cnn