วิกฤตเนปาล มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รัฐมนตรีหลบหนี ถูกรุมประชาทัณฑ์-เผาบ้านพัก ทำร้าย

          การประท้วงที่เนปาลทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี หลังกลุ่มผู้ประท้วงเผาอาคารรัฐบาลหลายแห่ง ท่ามกลางตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 22 คน แม้รัฐบาลจะยอมยกเลิกคำสั่งห้ามการให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงนายกรัฐมนตรีเนปาลประกาศลาออกแล้ว แต่มวลชนยังเดินหน้าประท้วงต่อเนื่อง

          รัฐสภาเนปาลถูกไฟเผาเสียหาย และมีการจุดไฟเผาสิ่งของในหลายจุด ท่ามกลางการเฉลิมฉลองของกลุ่มผู้ประท้วงที่มีอาคารรัฐบาลที่ไฟลุกไหม้เป็นฉากหลัง หลังจากมีความพยายามบุกเข้าสภามาตั้งแต่วันจันทร์ (8 ก.ย.68) มีรายงานว่า ราชยลักษมี จิตราการ ภรรยาของอดีตนายกรัฐมนตรี เนปาล จาลา เนธ คานัล ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจุดไฟเผาเธอทั้งเป็นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เช่นเดียวกับ นายบิชณ ปราสาท โปเดล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถูกกลุ่มผู้ประท้วงไล่ล่า ทำร้ายร่างกาย ก่อนถูกจับแก้ผ้า แห่กลางเมืองหลวง และถูกผลักลงไปในแม่น้ำ 

          ด้านสถานทูตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ  เพิ่มเติมสถานการณ์ล่าสุด ว่า ขณะนี้ สถานการณ์ดีขึ้นบ้างแล้วโดย สถานเอกอัครราชทูตจะอัพเดททางหน้าเพจ Facebook ต่อไป ก่อนหน้านี้ สถานทูตได้ปิดทำการเมื่อวานนี้ และให้เจ้าหน้าที่ทำงานที่ ที่พัก

           ท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวัน (Tribhuvan International Airport - TIA) ในกรุงกาฐมาณฑุได้ถูก ปิดทำการ หลังการประท้วงที่ทวีความรุนแรงขึ้น และมีการจุดไฟเผาใกล้กับบริเวณสนามบิน ทำให้เจ้าหน้าที่ประเมินว่าไม่ปลอดภัยต่อการปฏิบัติการบิน โดยสายการบินหลายแห่งทั้งของเนปาลและต่างประเทศ เช่น Air India, IndiGo และ Thai Lion Air ได้ประกาศยกเลิกหรือเปลี่ยนเส้นทางการบินทั้งหมดที่มุ่งหน้าไปยังกรุงกาฐมาณฑุ

          การประท้วงที่เนปาลทวีความรุนแรงขึ้นอีกขั้น จนกลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี หลังจากประชาชนแสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ปราบปรามการประท้วงด้วยความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 22 คน

          ผู้ประท้วงบุกเข้าไปเผาบ้านของนายเค.พี.ชาร์มา โอลี และยังบุกเผาและเข้าไปทำลายทรัพย์สินภายในบ้านพักของรัฐมนตรีต่าง ๆ ในรัฐบาลเนปาลอีกหลายคน เช่นเดียวกับสถานที่ราชการ ที่ทำการพรรคการเมืองและบ้านของนักการเมืองอีกหลายแห่งทั่วประเทศ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อปัญหาการทุจริตและปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรัง

          ระหว่างเหตุการณ์ความไม่สงบ มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เนปาล ระบุว่า ผู้ต้องขัง 900 คนจากเรือนจำ 2 แห่งทางตะวันตกของประเทศ อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีออกมาได้สำเร็จ

          เหตุประท้วงครั้งใหญ่ของเนปาลครั้งนี้มีชนวนเหตุมาจากคำสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ 26 แพลตฟอร์มของรัฐบาล ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ก ยูทูปและเอ็กซ์ โดยรัฐบาลให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ลงทะเบียนไม่ทันตามเวลาที่กำหนด รวมถึงอ้างว่าต้องการจัดการกับข่าวปลอม การแสดงความเกลียดชังและการฉ้อโกงทางออนไลน์ ส่งผลให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มเจนซี (Gen Z) ออกมาประท้วงพร้อมแสดงความไม่พอใจต่อปัญหาการทุจริตที่สั่งสมมานาน รวมถึงการบริหารงานด้านเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อีกด้วย