ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 เรื่องการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551, คดีหมายเลขแดงที่ อม.10 /2552, คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ล่าสุด ศาลฎีกาได้อ่านคำสั่งว่า การบังคับโทษต่อ นายทักษิณ ไม่เคยเกิดขึ้น หรือ หากมีไม่ถูกต้อง จึงให้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาอย่างครบถ้วนเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่หักวันเวลาที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายทันที
ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมาย วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่เป็นอดีตนายกฯ คนแรกต้องจำคุก นับเป็นเรื่องที่หนักสำหรับนายทักษิณและครอบครัว ยังมีกำลังใจดี พรรคเพื่อไทย พร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อประชาชนต่อไป
ภายหลังฟังคำพิพากษานางสาวแพทองธารและได้เข้าไปกอด และจับมือให้กำลังใจกับนายทักษิณ ในขณะที่นายทักษิณยังมีทีท่าสงบนิ่งคอยปรึกษากับนายวิญญัติทนายความ
คดีดังกล่าวแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย โดย มี 1 คนถูกว่ากล่าวตักเตือน ส่วนอีก 2 คนถูกพักใช้ใบอนุญาต โดยพบให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากนายทักษิณ ป่วยไม่วิกฤต
ก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาฯ พิจารณาว่าเมื่อความปรากฏว่า ในคดีของนายทักษิณ อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรจึงเข้าทำการไต่สวนเรื่องการบังคับโทษนายทักษิณ และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาฯ ได้มีการตั้งองค์คณะ 5 คน เพื่อไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่นายทักษิณ โดยมีการไต่สวนพยานทั้งสิ้น 7 นัด จำนวน 31 ปาก ก่อนที่จะมีการอ่านคำสั่งใน วันนี้ (9 ก.ย.)
โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาถึงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และสามี น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ และสามี รวมถึงนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลฎีกานายวิญญัติ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า จะให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลฎีกาฯ อ่านคำสั่งเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารศาลฎีกาทันที
#คุกทักษิณ