ทันสถานการณ์ฯ:กรีซบรรลุข้อตกลงเจ้าหนี้/ยูโรเตรียมเสริมสภาพคล่อง/มาเลเซียสอบสวนรายงานโอนเงินเข้าบัญชีนายกฯ/หารือนิวเคลียร์อิหร่านยังไม่ยุติ

รัฐบาลกรีซบรรลุข้อตกลงกับผู้นำกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร หรือ ยูโรโซน ในที่ประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่าด้วยการจัดสรรเงินกู้ช่วยเหลืองวดที่สาม นับตั้งแต่ทำสัญญากู้ยืมฉบับแรกในปี 2553 โดยเงินกู้งวดที่สามนี้มีมูลค่าราว 8 หมื่น 6 พันล้านยูโร ที่จะมีการโอนให้ในระยะ 3 ปีแลกกับการที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซีส ซีปราส ผู้นำกรีซจะต้องผลักดันมาตรการปฏิรูปสำคัญให้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาภายในวันพุธที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งโดยภาพรวม ไม่ได้ต่างไปจากเงื่อนไขที่ชาวกรีกส่วนใหญ่ลงมติไม่ยอมรับเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้จึงทำให้ชาวกรีกและนักวิชาการกรีกจำนวนมากไม่พอใจ

สำหรับการประชุมของกลุ่มผู้นำ 19 ประเทศสมาชิกยูโรโซนเริ่มมาตั้งแต่วันอาทิตย์ และยืดเยื้อข้ามคืนมาจนถึงวันจันทร์ และนายฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เป็นองค์กรบริหารของอียู แถลงว่าข้อตกลงนี้จะทำให้กรีซไม่ต้องออกจากยูโรโซนและไม่ได้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามชาวกรีก

ภายใต้ข้อตกลงนี้ นายกรัฐมนตรีซีปราสต้องนำมาตรการปฏิรูปสำคัญรวม 6 ประการ อาทิ การลดงบประมาณจ่าย, การขึ้นภาษี, และการปฏิรูประบบบำนาญ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภากรีซ และอนุมัติเป็นกฎหมาย พร้อมไปกับการผลักดันให้รัฐสภารับรองข้อตกลงเงินกู้งวดที่ 3 ทั้งฉบับ เพื่อนำกลับไปยื่นต่อยูโรโซนและเริ่มเปิดเจรจารายละเอียดของเงินกู้ต่อไป นอกจากนี้ยังต้องนำสินทรัพย์รวมมูลค่า 50,000 ล้านยูโร เข้ามาอยู่ในกองทุนทรัสต์ซึ่งรัฐบาลกรีซจะเข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้  สินทรัพย์เหล่านี้จะถูกนำไปขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ และลงทุนในประเทศกรีซเอง กับต้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีบทบาทอย่างสมบูรณ์ในการจัดการเงินช่วยเหลืองวดที่ 3

ด้านรัฐมนตรีคลังยูโรโซน เริ่มหารือเงินกู้ระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่กรีซ ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อนุมัติเพิ่มสภาพคล่องฉุกเฉินให้แก่ธนาคารกรีซ เนื่องจากธนาคารของกรีซจะไม่มีเงินสดหมุนเวียนเหลืออยู่อีกภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้กรีซต้องการเงิน 7,000 ล้านยูโรภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรกับอีซีบี และ 12,000 ล้านยูโรที่จะถึงกำหนดชำระเงินให้อีซีบีอีกงวดกลางเดือนหน้า

โดยในเช้าวันนี้ที่กรีซจะมีการประชุมสมาชิกรัฐสภาของพรรคไซรีซา ที่เป็นพรรครัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีซีปราสอาจมีคำสั่งปลดนายปานากิโอติส ลาฟาซานิส รัฐมนตรีพลังงานและนายดิมิทริส สตราตูลิส รัฐมนตรีช่วยแรงงาน เนื่องจากมีจุดยืนต่อต้านข้อตกลง นอกจากนี้นายกรัฐนตรียังมีความขัดแย้งกับนายชอย คอนสแตนติโพลโลว นักการเมืองฝ่ายซ้ายที่ไม่พอใจข้อตกลงกู้ยืมเช่นกัน และพยายามหาทางขัดขวางทางการต่อการลงมติเห็นชอบมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ       

อย่างไรก็ตามผลจากข้อตกลงนี้ทำให้ตลาดยุโรปปรับตัวขึ้น โดยดัชนีสต๊อกซ์ 600 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นทั่วยุโรป ดีดตัวกว่าร้อยละ 1.6 เช่นเดียวกับหุ้นในเยอรมนี สเปน และ ฝรั่งเศส

ส่วนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ในแนวบวกเช่นกัน โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 217.27 จุด หรือร้อยละ 1.22 ปิดที่ 17,977.68 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือร้อยละ 1.11 ปิดที่ 2,099.60 จุด ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 73.81 จุด หรือร้อยละ 1.48 ปิดที่ 5,071.51 จุด

ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย ตั้งคณะทำงานสืบสวนกรณีที่มีสื่ออเมริกันรายงานเรื่องการโอนเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งมาเลเซีย หรือ “1 เอ็มดีบี” จำนวนประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าบัญชีธนาคารนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ซึ่งตำรวจเห็นว่าเป็นความพยายามบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงสมคบคิดกันล้มล้างรัฐบาล

ส่วนบัญชีเฟซบุ๊คของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ถูกแฮคเกอร์เจาะระบบและขึ้นข้อความที่แสดงการสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส พร้อมเปลี่ยนรูปภาพหน้าปกของบัญชีนี้ระบุว่าคาลิฟะห์กลับมาแล้ว

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย เร่งระบายผู้โดยสารเครื่องบินหลายพันคนซึ่งที่ตกค้างจากการปิดสนามบินเพราะภูเขาไฟราอุง บนเกาะชวาเกิดการปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้า คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน

สนามบินฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษประกาศว่าชะลอการเดินทางของสายการบินต่างๆ เพราะเกิดเหตุกลุ่มเพลน สติวปิด นักเคลื่อนไหวรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมหลายสิบคนปีนรั้วสนามบินเข้ามาประท้วงอยู่บนรันเวย์ทางทิศเหนือ เพื่อคัดค้านการก่อสร้างรันเวย์สนามบินแห่งที่ 3 เพราะเห็นว่าจะทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลจีนยุตินโยบายเลือกปฏิบัติและละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ โดยอ้างว่ามีผู้ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาปลุกระดมและต่อต้านรัฐบาลจีนในปี 2557 จำนวน 52 ราย ซึ่งมีทั้งทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และชนกลุ่มน้อย

อิหร่านและมหาอำนาจ 6 ชาติ ยังมีประเด็นสำคัญต้องแก้ไข ก่อนบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์ แต่ยังมีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็ว ๆ นี้ โดย 6 ชาติมหาอำนาจต้องการให้อิหร่านลดระดับของโครงการนิวเคลียร์เพื่อให้แน่ใจว่จะไม่มีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เกิดเหตุอาคารทรุดตัว โดยเป็นอาคารที่พักของทหาร ในศูนย์ฝึกที่ 242 ที่จะฝึกทหารใหม่และพลขับยานหุ้มเกราะในเมืองออมสค์ ที่อยู่ห่างจากกรุงมอสโก ไปทางตะวันออกประมาณ 2,200 กิโลเมตร มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 23 นาย โดยมีอายุระหว่าง 18-24 ปี เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีทหารพักผ่อนอยู่ 42 นาย และกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุการถล่ม

...