ผู้พิพากษาแอลลิสัน เบอร์โรห์ส ประจำศาลของรัฐบาลกลางในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์สหรัฐฯ มีคำชี้ขาดเมื่อวานนี้(3 ก.ย.) ให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ร้อง ชนะคดีที่มหาวิทยาลัยฟ้องศาล กล่าวหาการที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ผู้ถูกร้อง มีคำสั่งในเดือนเม.ย.ให้ระงับเงินอุดหนุนการวิจัยกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์(72,000 ล้านบาท) ไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ
ศาลระบุว่า การกระทำของรัฐบาลอาจจะกระทบต่อการทำงานวิจัยในด้านเทคโนโลยีการแพทย์ และการสาธารณสุขของสหรัฐฯต่อไปอีกหลายสิบปี ทั้งอาจจะกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชนที่อาจจะได้รับประโยชน์จากผลการทำวิจัยในอนาคต เช่น การวิจัยในประเด็นที่ว่ามีความเสี่ยงที่อดีตทหารผ่านศึกของสหรัฐฯจะฆ่าตัวตาย หรือไม่ พร้อมข้อเสนอแนะว่าอดีตทหารผ่านศึกควรจะได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้คำสั่งของรัฐบาลทรัมป์เข้าข่ายละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ศาลไม่รับฟังข้อโต้แย้งจากรัฐบาลทรัมป์ ผู้ถูกร้อง ที่ระบุว่า การสั่งระงับเงินอุดหนุนดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการที่มหาวิทยาลัยอนุญาตให้มีการประท้วงต่อต้านชาวยิวในบริเวณรั้วมหาวิทยาลัย โดยศาลมองเรื่องนี้ว่า เป็นเพียงคำอ้าง เพื่อตัดงบประมาณด้านการวิจัยของมหาวิทยาลัย
ส่วนท่าทีจากทำเนียบขาว นางลิซ ฮุสตัน โฆษกทำเนียบขาว แสดงความรู้สึกผิดหวังกับคำตัดสินของศาล ระบุว่า คนที่มีใจเป็นธรรมย่อมจะรู้ดีว่า มหาวิทยาลัยนี้ล้มเหลวมาโดยตลอดในเรื่องการปกป้องสิทธิ์ของนักศึกษา ย้ำว่า การที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยยินยอมให้นักศึกษาประท้วงในมหาวิทยาลัยอาจจะจุดชนวนให้เกิดความแตกแยกในสังคมสหรัฐฯ ย้ำว่า รัฐบาลทรัมป์จะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ เพื่อคัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้นต่อไป
#ศาลสหรัฐ
#ฮาวาร์ดชนะคดี
ที่มา: cnn