'บิ๊กเต่า' ยันไม่น้อยใจ หลังไม่มีชื่อโผแต่งตั้ง-โยกย้าย

          จากการเมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ใช้เวลาประชุมนานถึง 8 ชั่วโมงเพื่อพิจารณาจัดทำบัญชีรายชื่อ แต่งตั้งโยกย้าย โดยครั้งนี้มีตร. 250 นายได้รับการแต่งตั้ง แต่ไม่ปรากฎชื่อ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้ทำหนังสือยื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

          พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานมีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง สำหรับคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็ยินดีและดีใจด้วย อย่าง พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน มองว่าหากตนเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์และให้มีการแก้ไขก็คงแก้ยากเพราะทุกคนไม่มีรายชื่อเข้าไป แต่ก็ยังมีบางรายชื่อ 2-3 นายที่ยังมองว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับเลื่อนยศจาก พล.ต.ต. ขึ้นเป็นพล.ต.ท.ส่วนระดับยศ พ.ต.อ.ขึ้น พล.ต.ต. ตนเองยังไม่เห็นรายชื่อ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะฉะนั้นเห็นด้วยที่ ก.ตร. เข้ามาแก้ไขปัญหา

          ส่วนตัวที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อส่วนรวมและให้ระบบเดินต่อไปได้เป็นสิ่งที่ดี และอยากสร้างมาตรฐานอีกหนึ่งอย่างคือ อยากเห็นแนวทางการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถ อยากให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หาแนวทางในการให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่จะมีการแต่งตั้งในระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการในปีต่อไป

         หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าการพิจารณาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กและชุดใหญ่ ควรนำหลักการอะไรมาพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ตำรวจและส่วนรวมได้มีความมุมานะในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน ซึ่งตนเองอยากทำให้เป็นมาตรฐาน ไม่อย่างนั้นระบบอุปถัมภ์จะยังคงอยู่ ซึ่งจะไปสอบถาม ก.พ.ค.ตร. เพื่อเป็นแนวทางและการดำเนินการให้เกิดความชัดเจนในการพิจารณาปีต่อไป ไม่ใช่ไปเอาเรื่องหรือดำเนินคดี

          ส่วนการดำเนินการครั้งนี้รู้อยู่แล้วว่าอาจสร้างความไม่พอใจ แต่หากคนทำงานได้รับการพิจารณาตนเองก็ยินดีและดีใจด้วย แต่ส่วนคนที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาต้องยอมรับสภาพ เพราะเนื้อหาสาระของงานยังด้อยกว่ามาก จึงเห็นด้วยที่ ก.ตร.ชุดใหญ่ ที่มี พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน คืนความเป็นธรรมให้กลุ่มคนทำงาน ทำงานด้านการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบอยู่แล้ว หากคนที่ทำงานและได้รับการแต่งตั้งตนเองก็พร้อมพลีชีพ  ยืนยันว่าไม่มีเรื่องน้อยใจเพราะชีวิตผ่านอะไรมาเยอะไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ต่อไปก็จะทำงานให้เต็มที่ ไม่ได้เสียกำลังใจ และมองว่าตนเองเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำการออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นการทำเพื่อส่วนตัวแต่ทำเพื่อส่วนรวม ตนเองยังมีเวลาอีก 4 ปี มองในแง่บวกหลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อไปและทำให้หนักขึ้น การไม่ได้รับพิจารณาเพราะยังอาวุโสน้อยก็ไม่เป็นไร แต่มองว่าจะเกิดผลประโยชน์ในการหาแนวทางผลักดันให้ ก.ตร. วางหลักเกณฑ์ในการพิจารณาในปีต่อไป

#บิ๊กเต่า 

#แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ