สหรัฐฯกับเวเนฯตึงเครียด หลังสหรัฐฯส่งเรือรบแล่นเข้าไปยังน่านน้ำตอนใต้ทะเลแคริบเบียน

          มีความตึงเครียดสูงขึ้น ระหว่างสหรัฐฯกับเวเนซุเอลา หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯสั่งให้กองทัพเรือสหรัฐฯส่งเรือรบ 7 ลำเข้าไปตรึงกำลังอยู่ในบริเวณตอนใต้ของทะเลแคริบเบียน ใกล้น่านน้ำของเวเนซุเอลา เช่น เรือยูเอสเอส ซานอันโตนิโอ, เรือยูเอสเอส อิโวจิมา และเรือยูเอสเอส ฟอร์ท เลาเดอร์เดล พร้อมทหารเรือรวม 6,700 นาย นอกจากนั้น กองทัพเรือสหรัฐฯได้ส่งเครื่องบินรุ่น P-8 อีก 1 ลำเข้าไปบินลาดตระเวนทางอากาศ อีกทั้งเตรียมส่งเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ยูเอสเอส นิวพอร์ท นิวส์ แล่นเข้าไปสมทบในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

          นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว และเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ แถลงว่า เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดในแถบละตินอเมริกา และสกัดผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ประเทศต้นทาง ตามนโยบายรักษาความมั่นคงชายแดนทางภาคใต้ของสหรัฐฯ ตามที่นายทรัมป์หาเสียงไว้กับประชาชนในปีที่แล้ว(2567) ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์แถลงในเดือนก.พ.เรื่องการขึ้นบัญชีดำแก๊งค้ายา ซีนาโลอา (Sinaloa Cartel) ของเม็กซิโกและแก๊งอาชญากรรมอื่นๆ รวมถึงแก๊ง เทรน เด อารากัว (Tren de Aragua) ของเวเนซุเอลา เป็นองค์การก่อการร้ายระดับโลก

          ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลาประณามการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน นายซามูเอล มอนคาดา เอกอักรราชทูตของเวเนซุเอลาประจำสหประชาชาติร้องเรียนไปยังนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวหาสหรัฐฯมุ่งใช้ปฏิบัติการทางทหาร เพื่อเข้าแทรกแซงอำนาจอธิปไตยเหนือน่านน้ำของรัฐอื่น เข้าข่ายละเมิดกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ

          ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯไม่ได้ระบุชัดเจนว่า สหรัฐฯส่งเรือรบหลายลำเข้ามายังภูมิภาคนี้เพื่อทำภารกิจใด แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์เคยระบุว่า รัฐบาลต้องการใช้กองทัพเข้ามาร่วมทำภารกิจปราบปรามยาเสพติดและแก้ปัญหาคดีอาชญากรรมร่วมกับตำรวจ พร้อมสั่งการให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเตรียมกำลังพลไว้ให้พร้อมรองรับภารกิจนี้ด้วย

..

#สหรัฐ

#เวเนซุเอลา

#ปราบยาเสพติด