ตร.แนะ แม่-ลูกชาวกัมพูชา เดินทางกลับประเทศ เพื่อทำบัตรประจำตัว กลับเข้าไทย

วันนี้, 14:30น.


          กรณี ตำรวจคุมตัวนักเรียนวัย 13 ปี ชาวกัมพูชา ไปจากโรงเรียน และเตรียมส่งตัวไปประเทศกัมพูชา ทั้งที่ แม้ว่าเด็กอยู่เมืองไทยมาตั้งแต่แบเบาะ เรียนในไทย พูดภาษาไทย แม้แต่ภาษากัมพูชาก็อ่านไม่ได้ ทั้งยังมีผลการเรียนดี เกรด 4.00 ล่าสุด นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กระทรวงมหาดไทย ไม่ได้นิ่งนอนใจครับ ผมได้มีการประสานตรงไปยัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงเช้า และปัจจุบันทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวง พม. ได้เข้ามาช่วยประสานงานด้วยแล้ว



          โดยขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ร่วมกับนายอำเภอกำลังลงพื้นที่หน้างาน เพื่อช่วยเหลือดำเนินการ



          พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รองผกก.ตรวจคนเข้าเมือง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยของทีมสหวิชาชีพ ที่มีทั้ง พม.ครูและผู้ปกครอง รวมถึงตัวเด็ก ได้สมัครใจที่จะเดินทางกลับกัมพูชา เพื่อไปทำบัตรประจำตัวให้ถูกต้อง และจะได้เข้าเมืองให้ถูกกฏหมาย และกลับมาเรียนต่อในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเด็กยินดีกลับไปพร้อมกับแม่ ขณะนี้จึงส่งตัวเด็กและแม่ไปยัง ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อส่งกลับตามขั้นตอน



          พ.ต.ท.อุดร ยืนยันว่า ตม.สุรินทร์ และทุกฝ่ายคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กและแม่ชาวกัมพูชาอย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่แม่ไม่มีบัตรประจำตัวแสดงตัวตน และเข้าเมืองผิดกฏหมาย รวมถึงเด็กยังไม่มีหลักฐานการมีสัญชาติ หรือบัตรแสดงตัวอื่นๆนอกจากใบเกิด จึงอยากให้ไปทำเอกสารเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฏหมาย



          พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ เป็นนักสิทธิมนุษยชนและนักกฎหมายหญิงชาวไทย เป็นผู้อำนวยการของ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “เรื่องนักเรียนชาวกัมพูชาหากไม่สมัครใจกลับ ถือเป็นการบังคับส่งกลับที่ผิด ยื่นต่อศาลและทำคำร้องต่อตำรวจตม.โดยตรงจะทำทันไหม”



          ขณะที่ บุษยาภา ศรีสมพงษ์ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความว่า “เคสเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทย ถือบัตร G ตม.ไม่มีอำนาจเนรเทศส่งกลับ ขัดหลักอนุสัญญาสิทธิเด็กที่ไทยเป็นภาคี



 



 

ข่าวทั้งหมด

X