ไทยประณามเขมร ย้ำ บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เป็นของไทย –เขมรรุกล้ำ ไม่ยอมรื้อถอน

วันนี้, 07:51น.


          สถานการณ์ชายแดนกัมพูชา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า กรณีบ้านหนองจาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม ตามที่ทราบ ฝ่ายกัมพูชาใช้พลเรือนประกอบด้วย สตรี เด็ก และผู้สูงอายุ มารื้อลวดหนามและก่อความวุ่นวายนั้นขอยืนยันอีกครั้งว่า บ้านหนองจานตั้งอยู่ในเขตอธิปไตยไทย เดิมเคยใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบเข้ามาอยู่ในไทย แต่ภายหลังสงครามสิ้นสุดกลับขยายชุมชนออกไป ถือละเมิดเอ็มโอยู2543 ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ไทยมาตลอด แต่กัมพูชาเพิกเฉยและไม่ได้ตอบสนองใดๆ แม้ฝ่ายไทยได้หยิบยกเรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนร่วมกันรวมถึงพื้นที่บริเวณบ้านหนองจานมาหารือในที่ประชุมอาร์บีซีสมัยวิสามัญครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาก็ไม่ได้ตอบรับ



          นายนิกรเดชกล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่เกิดขึ้นมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอยืนยันชัดเจนว่า ทหารกัมพูชาปล่อยให้ประชาชนกัมพูชารื้อรั้วลวดหนาม รวมทั้งสร้างสถานการณ์ที่เป็นการยั่วยุอย่างต่อเนื่อง ปรากฏภาพสตรีอุ้มทารกเข้าไปเผชิญหน้าทหารไทยด้วย ทหารไทยใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูงสุดต่อการยั่วยุดังกล่าว และไม่คาดคิดว่าฝ่ายกัมพูชาจะปล่อยให้ประชาชนของตนเป็นผู้ออกหน้าแทนทหาร ทั้งที่ในทางกลับกันฝ่ายทหารควรจะอยู่แนวหน้าเพื่อปกป้องประชาชน



          ไทยขอประณามการที่ฝ่ายกัมพูชาใช้ประชาชนโดยเฉพาะสตรีและเด็กมาเป็นด่านหน้าเสมือนหนึ่งเป็นโล่มนุษย์ เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและไม่สอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำในลักษณะดังกล่าว รวมทั้งการจัดฉากโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังมีหนังสือตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นทางการ รวมถึงจะดำเนินการในกรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ด้วย



          ส่วนการดำเนินการของฝ่ายไทยในเวทีระหว่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำลังเดินทางไปนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ และจะอยู่ถึงวันที่ 28 สิงหาคม มีกำหนดพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เพื่อย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดของไทยตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชน และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศไทยจะใช้โอกาสนี้แสดงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เห็นถึงการกระทำของกัมพูชาที่ไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ขัดต่อกติกาสากลอย่างสิ้นเชิง และเป็นพฤติการณ์ที่กระทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป้าหมายพลเรือน การนำเด็กมาใช้ในคลิปวิดีโอกับทุ่นระเบิด การใช้พื้นที่ชุมชนเป็นฐานที่มั่นทางการทหาร หรือการผลักดันเด็ก สตรี และผู้สูงอายุให้ออกมาเป็นด่านหน้า รวมถึงพฤติการณ์ล่าสุดในการยั่วยุและนำประชาชนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อเป็นการปฏิบัติการทางทหารที่ได้เห็นกันเมื่อวานนี้ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน



 

ข่าวทั้งหมด

X