รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการก่อสร้างโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์ ใกล้รัฐโรดไอแลนด์ ทั้งโจมตีอุตสาหกรรมพลังงานลม แม้นักวิทยาศาสตร์จะยืนยันว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ออกสเตด (Orsted) ผู้พัฒนาฟาร์มกังหันลมจากเดนมาร์ก เปิดเผยว่าโครงการเรฟโวลูชั่นวินด์ (Revolution Wind) ที่เริ่มการทำงานในปี 2566 เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วประมาณร้อยละ 80 โดยมีกังหันลม 45 ตัวจากทั้งหมด 65 ตัวที่ได้รับการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว คาดว่าโครงการจะสมบูรณ์ในปีหน้า (2569) แต่เมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.68) ตามเวลาท้องถิ่น ได้รับแจ้งจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่าจำเป็นต้องตรวจสอบโครงการและแก้ไขข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่ไม่ได้ระบุว่าความกังวลนั้นคืออะไร ซึ่งออกสเตด กำลังประเมินผลกระทบทางการเงินจากการหยุดโครงการ และกำลังพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมาย
ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ว่าคือ "กลโกงแห่งศตวรรษ!" ซึ่งเขาจะไม่อนุมัติโครงการอีก และว่า "ยุคแห่งความโง่เขลาในสหรัฐอเมริกาได้สิ้นสุดลงแล้ว!!!" แม้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างเห็นพ้องกันว่าประเทศต่างๆ ต้องเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อป้องกันผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายแดน แมคคี ผู้ว่าการรัฐโรดไอแลนด์ วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งหยุดโครงการ และกล่าวว่าเขาและนายเน็ด ลามอนต์ ผู้ว่าการรัฐคอนเนตทิคัต จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้โครงการพลังงานลมกลับมาดำเนินโครงการต่อไป
เรฟโวลูชั่นวินด์ ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งโรดไอแลนด์ไปทางใต้มากกว่า 24 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งคอนเนตทิคัตไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 51 กิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันโรดไอแลนด์ยังมีฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งแห่งหนึ่ง ซึ่งมีกังหันลม 5 ตัว
...
#พลังงานลม
#สหรัฐอเมริกา