การดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวาที่จะมีการชี้แจงที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในวันนี้นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ได้ร่วมกันแถลงข่าว ระบุว่า กำลังรอคำตอบกับการดำเนินงานที่ นครเจนีวา แต่เราดำเนินการตามอนุสัญญา มีการดำเนินการผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ แจ้งการกระทำที่ ไม่เป็นไปตามอนุสัญญาที่จะไม่นำมาใช้ซึ่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งดำเนินการไปแล้ว กำลังรอการตรวจสอบของเจนีว่าต่อไป
นายนิกรเดชกล่าวว่า วันนี้จะมีการประชุมในกรอบกรรมการบังคับให้รัฐภาคีดำเนินการภายใต้อนุสัญญาออตตาวาที่เจนีวา ซึ่งน.ส.อุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา จะเข้าร่วมชี้แจงในวันนี้และจะมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมด้วย
ส่วนจะนำประเด็น การพาคณะทูตานุทูตและสื่อต่างชาติลงพื้นที่ของไทยจะถูกนำไปพูดคุยด้วยหรือไม่ นายนิกรเดชกล่าวว่า ท่านทูตหลายท่านแสดงความคิดเห็นและให้สัมภาษณ์สื่อในเชิงเห็นใจว่าไทยเป็นผู้ถูกระทำจากการที่ได้ลงไปดูและไปเห็น ซึ่งเป็นผลดีกับเราว่า สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง สิ่งนี้สำคัญมาก ที่จะมีการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศว่า สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง และกดดันกัมพูชาให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ส่วนประเด็นปัญหาบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นพื้นที่ที่มีชาวกัมพูชาได้สร้างบ้านเรือนลุกล้ำเข้ามาในเขตของไทย จึงชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบว่า บ้านหนองจานตั้งอยู่ระหว่างแนวเขตแดนที่ 46 และ 47 ตามแนวเขตแดนตามความตกลงสยาม-ฝรั่งเศส ปี 1907 เมื่อปี 2524 ไทยอนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ต้้งศูนย์อพยพชั่วคราวขึ้นด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมให้คนกัมพูชาที่หนีภัยสงครามกลางเมืองภายในประเทศกัมพูชาเองตามที่ UNHCR ร้องขอ โดยทหารไทยได้จัดทำแนวรั้วเพื่อจำกัดเขตดังกล่าว แต่หลังสงครามยุติลงในปี 2542 ชาวกัมพูชากลุ่มนั้นซึ่งหนีภัยสงคราม มาก็ยังได้เข้ามาก่อสร้างที่อยู่อาศัย ขยายที่ดินทำกินจนออกมานอกแนวรั้วที่เห็นกันอยู่จนปัจจุบันนี้
ต่อมาเมื่อวันที่ 28-30 สิงหาคม 2545 กระทรวงการต่างประเทศ และกรมแผนที่ทหาร ได้มีการหารือกับนายวา คิม ฮอง ปธ.เจบีซีของกัมพูชา ณ ขณะนั้น โดยฝ่ายไทยขอให้ราษฎรชาวกัมพูชาย้ายออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะต้องขอตรวจสอบแนวที่แน่ชัดของหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ก่อน
ต่อมาเมื่อเดือนกันยายน 2560 กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา กรณีการขยายตัวของชุมชนบริเวณบ้านหนองจาน มีการชักธงชาติกัมพูชา และจัดตั้งหน่วยงานของกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และละเมิดข้อ 5 เอ็มโอยู 2543 ขอให้มีการปลดธงชาติและย้ายชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีหนังสือตอบกลับหรือโต้แย้งแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่าพื้นที่บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ของไทย โดยไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามช่วงเขมรแดงมาอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว