การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (21 ส.ค.68) ขณะที่นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไปเสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทราบรายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลงระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลงเอ็มโอยู 43 และ 44 ของ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่า ภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายไชยา สั่งปิดประชุม ในเวลา 14.59 น.
ซึ่งนายไชยาชี้แจงว่า ปิดประชุมตามที่ได้รับการประสานงานจากวิปรัฐบาลว่า ได้หารือกับวิปฝ่ายค้านว่า หากหมดวาระการรับทราบการประชุมแล้วก็ให้ปิดประชุม และเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ก็มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านร่วมกันแถลงข่าวกรณีการปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่เปิดโอกาสให้พิจารณาญัตติสำคัญเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543-2544 ของประเทศไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง และสะท้อนถึงการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีการพูดคุยกันไว้ และบั่นทอนความหวังของประชาชนที่ต้องการให้สภาเป็นพื้นที่ในการหาทางออกต่อปัญหาของชาติ โดยเฉพาะในประเด็น MOU ไทย-กัมพูชา ที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่กลับถูกปิดกั้นไม่ให้มีการอภิปราย
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ญัตติที่เกี่ยวข้องกับ MOU ไทย-กัมพูชา ถูกบรรจุเป็นเรื่องด่วนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังพรรคภูมิใจไทยเข้าชื่อเสนอ และมีการประสานกับฝ่ายรัฐบาลตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน ว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 21 สิงหาคม โดยฝ่ายค้านได้เตรียมรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญไว้เรียบร้อยแล้ว
....
#สภาผู้แทนราษฎร
#MOU43