อิสราเอลเร่งโจมตีภาคพื้นดินเขตเมืองกาซาซิตี้ ชาวปาเลสไตน์อพยพลงใต้

          ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากเร่งอพยพออกจากเขตเมืองของกาซาซิตี้ เมืองใหญ่ที่สุดของฉนวนกาซา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1 ล้านคน เมื่อกองทัพอิสราเอลที่ตั้งฐานที่มั่นไว้บริเวณชานเมือง ระดมโจมตีด้วยระเบิดและปืนใหญ่มาหลายวัน และเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน เพื่อย้ำเป้าหมายการยึดครองกาซาซิตี้ แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ

          กองทัพอิสราเอล แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และองค์กรระหว่างประเทศเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพประชาชนในกาซาซิตี้ จำนวน 1 ล้านคน และกำลังมีการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลในกาซาตอนใต้เพื่อรองรับผู้ป่วย โดยพบว่า ชาวปาเลสไตน์ในเขตไซตูน และซาบาห์อพยพไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง หลังจากที่มีการโจมตีอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนนี้ และเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นตลอดคืนวันพุธ (20 ส.ค.68) จนถึงวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.) แต่คาดว่าผู้ที่อยู่ในกาซาซิตี้ส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของฉนวนกาซา

          นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตและการทำลายล้าง

          ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตือนว่าจะสร้างความเสียหายต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ภูมิภาคทั้งหมดเข้าสู่วัฏจักรของสงครามถาวร

          คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) กล่าวว่า การอพยพเพิ่มเติมและการสู้รบที่ทวีความรุนแรงขึ้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายอยู่แล้ว ยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก

            กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ระบุว่าการโจมตีประชาชนในกาซาซิตี้ คือการเพิกเฉยต่อข้อเสนอหยุดยิงฉบับใหม่ ที่อิสราเอลยังไม่มีการตอบรับ โดยชี้ว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูคือผู้ขัดขวางการทำข้อตกลง

          รัฐบาลอิสราเอลประกาศความตั้งใจที่จะยึดครองฉนวนกาซา หลังจากการเจรจาทางอ้อมกับกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันล้มเหลวเมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค.) และกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ประกาศว่า เป้าหมายของปฏิบัติการในครั้งนี้คือการทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายทั้งบนดินและใต้ดิน และในขณะนี้กองกำลัง IDF เข้ายึดพื้นที่บริเวณชานเมืองของกาซาซิตี้แล้ว พร้อมยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ตัวประกัน 50 คนที่ยังถูกฮามาสควบคุมตัวไว้ได้รับอันตราย โดยเชื่อว่า 20 คนในกลุ่มนี้ยังมีชีวิตอยู่

...

#ฉนวนกาซา

#อิสราเอล