การประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ได้แจ้งลาประชุม ครม.เป็นครั้งที่ 2 ขณะเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แจ้งลาการประชุมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยวาระการประชุมที่น่าสนใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยจะมีการหารือถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) วันที่ 27 ส.ค.นี้ และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) วันที่ 8-10 ก.ย. ที่กัมพูชา
พร้อมกันนี้ จะมีการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวกับสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาเพิ่มเงินค่าตอบแทนแก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ในพื้นที่ปะทะตามแนวชายแดนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีวาระการพิจารณาที่สำคัญ คือ กระทรวงการต่างประเทศ เสนอร่างเอกสารการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สวีเดน สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Thailand - Sweden Strategic Partnership) ทั้งนี้ ต้องจับตาวาระลับ กรณีเสนอให้กระทรวงกลาโหม รับการชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ ตามโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนของกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นวาระต่อเนื่อง หลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติให้กองทัพอากาศ (ทอ.) เดินหน้าโครงการซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพ่น จากบริษัท SABB ประเทศสวีเดน
ส่วนวาระการแต่งตั้งโยกย้าย ในตำแหน่งที่น่าสนใจ อาทิ
- กระทรวงมหาดไทย (มท.) จะเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงของกระทรวงให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง
- การแต่งตั้งโยกย้าย นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ให้ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) คนใหม่ ต่อจากนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุในสิ้นเดือน ก.ย.นี้
- การแต่งตั้งโยกย้าย นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดีอี ไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน แทนนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ที่จะโอนย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
- การเสนอต่ออายุราชการ ให้กับนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกไปอีก 1 ปี