นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจาก 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ และสื่อมวลชนไทย-ต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่ตกค้างตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง จึงถือเป็นการจงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย
รัฐบาลไทย ขอให้ประชาคมโลกร่วมประณามการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร และเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแบบ 2 ฝ่าย ทั้งเก่าและใหม่ ตามที่ไทยได้เสนอในการประชุม GBC หากกัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือ ฝ่ายไทยก็จะดำเนินการเอง
ช่วงเช้าวันนี้ คณะทูตได้ลงพื้นที่ รร.ภูมิซรอลวิทยา รับฟังสรุปสถานการณ์ชายแดน และผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษกว่า 260,000 ครัวเรือน และในช่วงบ่ายจะขึ้นไปยังภูมะเขือและฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ และติดตามการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
#เขมรรุกรานไทย