'ปูติน-ทรัมป์' เจรจาชื่นมื่น แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป - ทรัมป์แจ้งผลประชุมให้ยูเครนและนาโต

วันนี้, 08:23น.


          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย  เสร็จสิ้นการประชุม แบบ 3 ฝ่าย ที่ฐานทัพร่วมเอล์มดอร์ฟ-ริชาร์ดสัน รัฐอลาสกา เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น การประชุมใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งคู่จะออกมาแถลงข่าว  ประธานาธิบดีทรัมป์ เชื่อว่า เรามีการประชุมที่สร้างสรรค์มาก มีหลายประเด็นที่เราเห็นชอบร่วมกัน มีสองสามเรื่องใหญ่ที่มีความคืบหน้าอยู่บ้าง ดังนั้น การประชุมวันนี้ จะยังไม่มีข้อตกลงจนกว่าจะเกิดข้อตกลง หลังจากนี้ จะโทรศัพท์หา NATO โทรหาบุคคลที่ผมคิดว่าเหมาะสม  รวมถึงประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ เซเลนสกีและแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการประชุมวันนี้ พร้อมเสริมว่าการประชุมครั้งหน้าจะมีขึ้นแน่นอน ซึ่งประธานาธิบดีปูตินบอกว่า ประชุมครั้งหน้าที่มอสโก



         ด้านประธานาธิบดีปูติน การเจรจาวันนี้เปิดกว้าง ที่ครอบคลุมและมีความหมายในทุกประเด็น พร้อมย้ำอีกครั้งว่าในทุกประเด็น ไม่ใช่เพียงบางประเด็นที่ถูกยัดเยียดข้อตกลงในวันนี้จะช่วยให้เราเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่เน้นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง และช่วยให้เราเริ่มต้นเส้นทางสู่การแก้ไขปัญหาในยูเครน





           ปูติน ยังย้อนไปถึงการเจรจาเมื่อปี 2022 ที่ได้พูดคุยกับ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ทำให้รัสเซียจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปสู่สถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าทางทหาร ทั้งที่บอกแล้วว่า จะเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ส่วนตัวเชื่อว่าในการเจรจาครั้งนี้ กับ ประธานาธิบดีทรัมป์มีฐานความสัมพันธ์ที่ดีมาก ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ และมั่นใจว่าหากเรายังคงเดินบนเส้นทางนั้น เราจะสามารถเคลื่อนไปสู่การแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้





          สำหรับบรรยากาศที่เป็นมิตรของการพูดคุย สำหรับแนวทางที่มุ่งเน้นเป้าหมายและมุ่งเน้นผลลัพธ์ เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาต้องการบรรลุอะไร ประธานาธิบดีทรัมป์มีความจริงใจอย่างแน่นอนที่ห่วงใยอนาคตของประเทศของเขา ในขณะเดียวกัน เขาก็เข้าใจว่ารัสเซียมีผลประโยชน์ของชาติของตัวเอง



          หลังการเจรจาสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีปูติน ได้วางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพทหารโซเวียตในรัฐอลาสก้าของสหรัฐฯก่อนเดินทางกลับรัสเซีย



          การหารือแบบตัวต่อตัวที่วางแผนไว้เดิม ถูกปรับเป็นการประชุมแบบ “สามต่อสาม” โดยฝ่ายสหรัฐฯ มีรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ และทูตพิเศษสตีฟ วิทคอฟ ร่วมด้วย ส่วนรัสเซียมีรัฐมนตรีต่างประเทศเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ และที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศยูริ อูชาคอฟร่วมประชุม ซึ่งสะท้อนท่าทีระมัดระวังมากกว่าการพบกันที่เฮลซิงกิในปี 2018



        ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สร้างความประทับใจให้แก่ประธานาธิบดีปูตินด้วยการจัดแสดงการบินหมู่ทางอากาศอย่างยิ่งใหญ่ นำโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ทางยุทธศาสตร์ B-2 Spirit และเครื่องบินขับไล่สเตลท์ F-35A Lightning II อีก 4 ลำ ก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะจับมือกันยืนบนแท่นที่มีป้ายข้อความว่า "Alaska 2025" ขณะเดียวกันมีนักข่าวสาวชาวอเมริกันได้ตะโกนถามประธานาธิบดีปูตินว่า "คุณจะหยุดสังหารพลเรือนไหม" ทำให้ประธานาธิบดีปูติน แสดงท่าทีไม่ได้ยินต่อคำถามดังกล่าวหลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เซอร์ไพรส์อีกครั้งด้วยการเชิญประธานาธิบดีปูตินขึ้นรถประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือที่รู้จักในชื่อ "The Beast" ทั้งที่เดิมประธานาธิบดีปูตินมีกำหนดจะขึ้นรถประจำตำแหน่ง Aurus ของรัสเซียที่จอดรออยู่ใกล้กับเครื่องบินขับไล่ F-22 Raptor ภายในฐานทัพอากาศร่วมดังกล่าว



          ผู้นำทั้งสองได้ใช้เวลาพูดคุยหารือกันอย่างไม่เป็นทางการ และได้ร่วมตอบคำถามจากตัวแทนสื่อมวลชนทั้งจากสหรัฐฯ รัสเซีย และสำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดเพื่อสันติภาพระหว่างรัสเซีย-สหรัฐอเมริกา ในปี 2025 ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

ในระหว่างการสนทนาได้เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดขึ้น เมื่อมีนักข่าวสาวชาวอเมริกันรายเดิมได้ถามประธานาธิบดีปูตินอีกครั้งว่า "คุณจะหยุดสังหารพลเรือนไหม" ด้านประธานาธิบดีปูติน ได้ตะโกนประโยคบางอย่าง ก่อนที่จะแสดงท่าทีไม่ได้ยินและทำตัวเฉยเมยต่อคำถามผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ไล่สื่อมวลชนทั้งหมดออกจากห้องรับรองดังกล่าวทันที



 



#ทรัมป์ปูติน2025

ข่าวทั้งหมด

X