นายเบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล ประกาศการก่อสร้างนิคมแห่งใหม่ในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง ทำให้ชาวปาเลสไตน์และกลุ่มสิทธิมนุษยชนกังวลว่าจะทำให้แผนการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในอนาคตต้องพังทลายลง เนื่องจากเวสต์แบงก์จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน นอกจากนี้การที่หลายประเทศ ประกาศว่าจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในเดือนกันยายน แต่นายสโมทริช กล่าวว่า การก่อสร้างนิคมแห่งใหม่ของอิสราเอล คือการแสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมรับรัฐปาเลสไตน์
มีการพิจารณาโครงการพัฒนาในพื้นที่ E1 ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม มานานกว่าสองทศวรรษแล้ว แต่ถูกระงับไว้เนื่องจากแรงกดดันจากสหรัฐฯ และคาดว่าจะได้รับการอนุมัติก่อสร้างในสัปดาห์หน้า ซึ่งในการแถลงโครงการก่อสร้างครั้งนี้ นายสโมทริชได้กล่าวยกย่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายไมค์ ฮัคคาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล ว่าเป็นเพื่อนแท้ของอิสราเอลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และกล่าวว่า โครงการนี้จะประกอบไปด้วยอพาร์ตเมนต์ประมาณ 3,500 ยูนิต เพื่อขยายชุมชนมาอาเล อาดูมิม คาดว่างานโครงสร้างพื้นฐานจะเริ่มต้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จากนั้นการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยจะเริ่มต้นได้ภายในเวลาประมาณหนึ่งปี
กลุ่มสิทธิมนุษยชนพีซนาว (Peace Now) ประณามว่าโครงการนี้เป็นอันตรายต่ออนาคตของอิสราเอล และโอกาสใดๆ ก็ตามที่จะบรรลุข้อตกลงสองรัฐอย่างสันติ
โดยเมื่อวันอังคาร (12 ส.ค.68) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ยังออกถ้อยแถลงยืนยันต่อวิสัยทัศน์ของอิสราเอลที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่ผู้สนับสนุน เชื่อว่าหมายถึงการที่อิสราเอลควบคุมเขตเวสต์แบงก์ถูกยึดครอง ไปจนถึงบางส่วนของประเทศอาหรับด้วย
...
#อิสราเอล
#ยึดครองเวสต์แบงก์