มีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(11ส.ค.) ได้ลงนามในคำสั่งเลื่อนกรอบเวลากลับมากำหนดเพดานภาษีสูงลิ่วเล่นงานสินค้าจีนออกไปอีก 90 วัน ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ข้อตกลงสงบศึกทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งมีกำหนดหมดอายุลง สำนักข่าวอลล์สตรีท เจอร์นัลและซีเอ็นบีซี รายงานอ้างพวกเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์ ระบุว่าการระงับขึ้นภาษีสูงลิ่วจะมีผลบังคับใช้ต่อไปอีก 90 วัน อย่างไรก็ตามทางทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว
หลังจากสหรัฐฯและจีนยกระดับรีดภาษีสินค้านำเข้าจากอีกฝ่ายเมื่อช่วงเดือนเมษายน แตะระดับตัวเลข 3 หลัก ในเดือนพฤษภาคม ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องปรับลดเพดานภาษีดังกล่าวลงเป็นการชั่วคราว แต่ข้อตกลงพักรีดภาษีสูงลิ่วเป็นเวลา 90 วัน มีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคาร(12ส.ค.)
ด้าน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า "เราหวังว่าสหรัฐฯจะทำงานร่วมกับจีน ในการทำตามฉันทามติที่สำคัญที่บรรลุความเห็นพ้องต้องกันระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ของประมุขทั้ง 2 ชาติ" พร้อมบอกต่อว่าปักกิ่งหวังว่าวอชิงตันจะมุ่งมั่นพยายามเพื่อผลลัพธ์ในแง่บวก บนพื้นฐานของความเท่าเทียม ความเคารพและผลประโยชน์ร่วมกัน
วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่าร่างคำสั่งฉบับสมบูรณ์ล่าสุดของทรัมป์ ยังไม่มีการเผยแพร่ออกมา แต่การขยายกรอบเวลา 90 วัน นั่นหมายความว่าข้อตกลงพักรีดภาษีจะไปหมดอายุลงในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ทั้ง 2 ประเทศบรรลุข้อตกลงสยบความตึงเครียด ตามหลังการเจรจาระดับสูงในเจนีวา ในเดือนพฤษภาคม แต่บรรยากาศแห่งความผ่อนคลายยังดูเปราะบาง
ในเดือนมิถุนายน พวกเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจระดับสูงได้พบปะกันในลอนดอน แต่พบเห็นร่องรอยความขัดแย้งปรากฏขึ้น ในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวหาเจ้าหน้าที่จีนละเมิดข้อตกลงสงบศึกรีดภาษี ก่อนที่พวกเขาจะพบปะกันอีกรอบในสตอกโฮล์ม เมื่อเดือนที่แล้ว
เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯบอกเมื่อเดือนที่แล้วว่า ทรัมป์ จะเป็นผู้ตัดสินในขั้นสุดท้ายต่อการขยายกรอบเวลาใดๆ
หากมีการขยายกรอบเวลาพักรีดภาษี นั่นหมายความว่าเพดานภาษีของสหรัฐฯที่เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีนในปีนี้ จะอยู่ที่ 30% ส่วนอัตราภาษีที่ปักกิ่งเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากอเมริกา จะอยู่ที่ 10%