พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยผลการประชุมของคณะทำงานคดีระหว่างนายเสกสันน์ หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ และวัดพระบาทน้ำพุ โดยระบุว่า ที่ประชุมได้กำหนดกรอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่เน้นคดีพฤติการณ์ฉ้อโกงเงินบริจาคหมอบีเป็นหลัก ซึ่งพบว่าขณะนี้มีข้อเท็จจริงที่ปรากฏเพิ่มเติมเป็นจำนวนมากในประเด็นเรื่องทรัพย์สินของวัด
ตำรวจจึงต้องวางแนวทางตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทั้งจากพยานหลักฐานและข้อมูลจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชีธนาคารของหมอบีที่เปิดให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งจะตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 เป็นอย่างน้อย รวม 6 ปี ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาเพื่อตรวจสอบอย่างรอบคอบและชัดเจน เพราะมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นตำรวจเห็นพฤติกรรมบางอย่าง ลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความผิดอาญาแผ่นดิน และสามารถดำเนินคดีได้ โดยวันนี้ (11 ส.ค.) หมอบีได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติม ซึ่งจากการฟังคำให้การและตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ตำรวจรับฟังไว้เป็นข้อมูล แต่ข้อเท็จจริงก็ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ทราบ
ล่าสุดตำรวจได้รับข้อมูลเรื่องเส้นทางการเงินของหมอบีจากธนาคารแล้ว เบื้องต้นพบพฤติการณ์เจ้าตัวเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ส่วนหลักฐานการดำเนินคดี ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ครอบคลุมทุกมิติ ยืนยันภายในสัปดาห์นี้จะยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ใด ไม่กังวลในประเด็นการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินในระหว่างนี้ เพราะหากมีการกระทำดังกล่าวจริง ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบได้ และหากการตรวจสอบชัดเจนแล้วว่าหมอบีมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือเป็นความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน ตำรวจสามารถเอาผิดเพิ่มเติมได้ในข้อหาตามมาตรา 157 หรืออาจเกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอกทรัพย์ ซึ่งความผิดต่าง ๆ เหล่านี้เป็นมูลฐานของข้อหาฟอกเงินได้ พร้อมย้ำว่าผู้ที่รับโอนทรัพย์สินอาจถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
สำหรับแนวทางการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจได้มีการซักถามข้อมูลจากกลุ่มคนที่เคยบริจาคเงินให้วัดแล้วบางส่วน นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องตรวจสอบคือการใช้ชื่อบุคคลอื่นมาเป็นชื่อเจ้าของที่ดินวัด 2,000 ไร่ และกรณีที่มีการซื้อรถให้วัด แต่มีการยืมรถไปใช้ ประเด็นนี้เจ้าอาวาสวัด หรือผู้เกี่ยวข้อง จะต้องชี้แจงสาเหตุที่ใช้ชื่อผู้อื่นมาถือครองทรัพย์สินดังกล่าว เพราะการกระทำลักษณะนี้อาจส่อเจตนาที่ไม่สุจริต เพราะหากเจตนาบริสุทธิ์การซื้อทรัพย์สินให้วัด ก็ต้องใช้ชื่อวัดเป็นเจ้าของ
พ.ต.อ.เอนก ยังระบุว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือถือทรัพย์สินแทนวัด หากเพิกเฉย ไม่ดำเนินการนำมาคืนโดยถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อมีความผิดมูลฐานชัดเจนที่เกี่ยวข้องในเรื่องการฟอกเงินก็จะเกี่ยวข้องในคดีด้วย ทรัพย์สินต่าง ๆ เกิดจากเงินบุญของพี่น้องประชาชน คนละบาท สิบบาท ร้อยบาท ทุกคนให้ด้วยใจกุศล เงินที่เขาบริจาคมาต้องไปในทางที่ถูกต้อง ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าเงินบุญถือว่าแรง บางท่านยังไม่รู้สำนึก ยังกอดทรัพย์สินไว้อยู่ ความเดือดร้อนก็อาจมาเยือนได้
#วัดพระบาทน้ำพุ
#หมอบี